อพท.จับมือ 17 พันธมิตรดัน “สุพรรณบุรี” ขึ้นเมืองท่องเที่ยวยั่งยืนเพื่อคนทั้งมวล ปลุกสร้าง “อารยสถาปัตย์” ทั้งจังหวัด รองรับทุกกลุ่มวัย-ผู้พิการ-ผู้สูงวัย เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันการท่องเที่ยว
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า อพท.จับมือ 17 องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อคนทั้งมวล จังหวัดสุพรรณบุรี” เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มวัยและทุกสภาพร่างกายให้ได้มีโอกาสเข้าถึงการบริการที่ทันสมัย ปลอดภัย ราคาเป็นธรรม พร้อมต่อยอดสุพรรณบุรีสู่ “เมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อคนทั้งมวล” ต่อไป
โดยความร่วมมือจะเริ่มตั้งแต่การร่วมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสานความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานในจังหวัด ให้จัดการการท่องเที่ยวที่มีความพร้อมด้านอารยสถาปัตย์ (Friendly Design) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All) พร้อมสร้างเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นำไปสู่การปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวสถานบริการต่างๆ อย่างรวดเร็วและเป็นรูปธรรม
“การบูรณาการทำงานร่วมกันรอบนี้จะมีตั้งแต่การปรับปรุงพัฒนา ตึกอาคาร สถานที่ แหล่งท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร จุดแวะพัก และบริการที่เกี่ยวข้องให้มีอารยสถาปัตย์ (Friendly Design) สามารถรองรับนักท่องเที่ยวผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้พักฟื้นสุขภาพ ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก และคนที่ใช้รถเข็น ให้เข้าถึงการบริการอย่างสะดวกสบาย เช่น ทางลาด ที่จอดรถ ห้องสุขาอารยสถาปัตย์ และป้ายสัญลักษณ์ เฟรนด์ลี่ดีไซน์ เป็นต้น” นายทวีพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ จังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่ใกล้กรุงเทพที่มีการเดินทางสะดวกจึงถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษและพื้นที่เชื่อมโยงตามแผนยุทธศาสตร์ของการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่มุ่งเน้นเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย อพท.เข้าไปช่วยประสานงานการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกที่เตรียมพร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเข้าถึงและการรองรับการท่องเที่ยวปราศจากอุปสรรคของคนทั้งมวล (Tourism for All)