เหมือนจะเป็นข่าวดี เมื่อ มร.บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร(อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ทางรัฐบาลอังกฤษจะเริ่มคลายล็อกดาวน์ด้วยการอนุญาตให้แฟนกีฬาสามารถเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬา ณ สถานที่แข่งขันได้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนนี้เป็นต้นไป
สำหรับทัวร์นาเมนต์กีฬานำร่องที่รัฐบาลอังกฤษอนุญาตให้แฟนกีฬาเข้ามาร่วมชมในสถานที่แข่งขันมี 3 รายการด้วยกันประกอบด้วย คริกเกตนัดกระชับมิตร ที่ดิโอวัล ระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคม, ม้าแข่งรายการ กู๊ดวู้ด ในวันที่ 1 สิงหาคม และการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2020 ณ โรงละครครูซิเบิลเธียเตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม-1 สิงหาคม
ส่วนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกลูกหนังอันดับ 1 ของโลก จะเริ่มอนุญาตให้แฟนบอลเข้ามาชมในสนามตั้งแต่ฤดูกาลหน้า (2020-2021) เป็นต้นไป ซึ่งจะเริ่มฤดูกาลในเดือนตุลาคมนี้
เมื่อเสร็จสิ้นการประกาศของนายรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน เชื่อว่ามีแฟนสนุกเกอร์จำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกดีใจที่จะได้เข้ามาร่วมชมการแข่งขันสนุกเกอร์รายการที่ใหญ่และมีมนต์ขลังมากที่สุดในโลก ณ สังเวียนครูซิเบิลเธียเตอร์
อีกทั้งผู้ชมถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ก็จะได้เห็นบรรยากาศการดวลคิวกลับมาคึกคักอีกครั้งไม่เงียบเหงาเหมือนกับ 2 รายการที่ผ่านมา ทั้งศึกแชมเปี้ยนชิพ ลีก 2020 และ ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2020 ที่ต้องแข่งขันแบบไม่มีคนดู ไร้ซึ่งเสียงปรบมือเมื่อเกิดชอตมหัศจรรย์ หรือมีการทำเซนจูรีเบรก รวมไปถึงบรรยากาศการฉลองแชมป์ ก็ไม่อลังการและยิ่งใหญ่อย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากคำประกาศของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเสร็จสิ้นไปได้ไม่นาน ”เดอะ ร็อกเกต” รอนนี่ โอซัลลิแวน นักสอยคิวมือ 6 ของโลก ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของวงการจากการมีแฟนสนุกเกอร์ติดตามเชียร์มากที่สุดในโลก ได้ออกมากล่าวคัดค้านและไม่เห็นด้วยกับการที่จะปล่อยให้แฟนสนุกเกอร์เข้ามาชมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
พร้อมกับขู่ว่าอย่างเสียงแข็งว่าหากศึกสอยคิวชิงแชมป์โลกในครั้งนี้มีแฟนสนุกเกอร์เข้ามาชม ณ โรงละครครูซิเบิลเธียเตอร์ เขาจะถอนตัวจากการแข่งขันทันที
อดีตแชมป์โลก 5 สมัยได้กล่าวอีกว่า เขายังมีความกระหายที่จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 หลังจากไม่ได้ฉลองแชมป์โลกมานานกว่า 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2013 อีกทั้งเงินรางวัลสำหรับการคว้าแชมป์โลกในปีนี้ ก็มีมูลค่ามากถึง 500,000 ปอนด์ หรือกว่า 20 ล้านบาท เขาจึงมีความกระหายที่จะกลับคว้าแชมป์โลกในปีอย่างแน่นอน
แต่หากต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงในช่วงที่โรคระบาดไวรัสโควิด-19 ยังไม่หายไปจากโลกใบนี้ อีกทั้งวัคซีนป้องกันก็ยังไม่ถูกคิดค้นและผลิตขึ้นมา เขาเลือกที่จะถอนตัวดีกว่า
นอกจากนี้นักสอยคิววัย 44 ปียังได้กล่าวอีกว่า การแข่งขันกีฬาในอังกฤษ โดยเฉพาะกีฬาในร่ม (Indoor) ยังไม่ควรอนุญาตให้แฟนกีฬาเข้ามาร่วมชมในสถานที่แข่งขัน ซึ่งเขามองว่ากีฬาในร่มทุกชนิดควรจะเปิดให้แฟนเข้ามาชม ณ สนามแข่งขันในช่วงต้นปี 2021 เป็นต้นไป หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้
หลังจากรอนนี่ประกาศคำขู่นี้ออกไปเชื่อว่าคนที่หนักใจที่สุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก แบร์รี่ เฮิร์น ประธานเวิลด์ สนุกเกอร์ทัวร์ (WST)
ก่อนหน้านี้ประธานคิวโลกวัย 72 ปี พยายามล็อบบี้รัฐบาลอังกฤษอย่างเต็มที่ โดยอาศัยความสนิทส่วนตัวกับ ไนเจล ฮัดเดิลสตัน รัฐมนตรีกีฬาของอังกฤษ เพื่อขอร้องให้รัฐบาลแดนผู้ดีอนุญาตให้สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2020 มีแฟนเข้ามาชมในสังเวียนครูซิเบิลเธียเตอร์ ประมาณ 200-300 คนต่อ 1 รอบแข่งขันจากความจุทั้งหมดประมาณ 1,000 ที่นั่ง
เหตุผลสำคัญที่ แบร์รี่ เฮิร์น ต้องการให้ศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก 2020 มีแฟนเข้ามาชมเพื่อต้องการให้บรรยากาศของการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกกลับมาคึกคักเหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการตลาด
อย่างไรก็ตาม จากการที่รอนนี่ออกมาขู่ว่าจะถอนตัวจากการแข่งขัน และเกิดพูดจริงทำจริงตามที่ลั่นวาจาขึ้นมา ก็จะส่งผลเสียต่อการตลาดเช่นกัน
หากไม่มีซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของวงการโชว์เพลงคิวอันเป็นเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ให้แฟนสนุกเกอร์ได้เห็นในศึกชิงแชมป์โลกหนนี้เรตติ้งยอดคนดูจากการถ่ายทอดสดก็คงลดฮวบหายไปไม่น้อย
จึงน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า แบร์รี่ เฮิร์น จะแก้ปัญหายังไงกับเรื่องนี้ จะยอมงัดข้อกับรอนนี่เพื่อให้มีคนเข้ามาดูในสนาม หรือจะยอมทำตามคำขู่ของรอนนี่เพื่อให้นักสอยคิวขวัญใจมหาชนรายนี้ลงดวลคิวเหมือนดังเดิม
ก่อนหน้านี้รอนนี่เคยขู่จะถอนตัวจากศึกแชมเปี้ยนชิพลีก 2020 มาแล้วหากฝ่ายจัดการแข่งขันไม่ยินยอมให้เขานำวัตถุดิบมาทำอาหารทานเองในระหว่างทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ไว้ใจว่าอาหารของโรงแรมจะปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 หรือไม่ ก่อนที่ฝ่ายจัดการแข่งขันจะยินยอมทำตามที่ ”เดอะ ร็อกเกต” ต้องการ
– ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง –
Add friend ที่ @Siamsport