13 Jul 2020 16:42 น.
อ่าน 310 ครั้ง
บลจ.ไทยพาณิชย์ ออกกองทริกเกอร์ 5,000 ล้านบาท ลุยธุรกิจธีม New Normal ตั้งเป้าหมายทริกเกอร์ 4% ใน 1 ปี
ช่วงที่มีการ Lockdown เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ทำให้มีการใช้เทคโนโลยี และ online service มากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่น Gen Z และ Millennials จึงเป็นโอกาสให้ธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีเติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาคิดค้นยารักษา โควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และกลุ่มธุรกิจใหม่ด้าน e-health เพื่อให้บริการรักษาจากระยะไกลถือเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดหรือ SCBAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Dynamic (SCB Dynamic Fund: SCBDM )มูลค่าจะทะเบียน 5,000 ล้านบาท ซึ่งเป็น กองทุนทริกเกอร์ เพื่อลงทุนในธุรกิจธีม New Normal และสินทรัพย์ที่ช่วยลดความผันผวนของพอร์ต เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง
ทั้งนี้กองทุน SCBDM จะเสนอขายเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 14 – 20 กรกฎาคม 2563 และผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนได้ภายใน 1 ปีนับแต่วันจดทะเบียนกองทุนโดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยจะเป็นกองทุนผสม มีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก และหน่วยลงทุนของกองทุน
- ตรวจสอบโอนเงินเยียวยาเกษตรกร เหลืออีก 7 วัน รีบแจ้งบัญชี
- ห่วงความปลอดภัย ‘เยาวชนปลดแอก’ ประกาศยุติชุมนุมแล้ว
- เช็ก www.เยียวยาเกษตรกร.com ตรวจสอบสถานะ เงินเข้าบัญชีอีก 1 ล้านราย
เบื้องต้นกองทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก 30% ลงทุนเบื้องต้นในกองทุนหุ้นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตหลังจากการฟื้นตัวจากโรคโควิด-19 เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากการปรับตัวในการใช้ชีวิตแบบ New Normal คือ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเฮลธ์แคร์ กลุ่มหุ้นขนาดเล็กถึงกลาง และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากความต้องการใช้จ่ายของผู้บริโภค อาทิเช่น Amazon, Nike, Starbucks
ส่วนที่ 2 ประมาณ 70% ลงทุนในสินทรัพย์ที่ช่วยลดความผันผวนของพอร์ต เพื่อบริหารความเสี่ยงด้วยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ คือ ตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารหนี้ในประเทศ และตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยกองทุนสามารถพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ขึ้นกับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์
ทั้งนี้ กองทุนมีเป้าหมายทริกเกอร์ 4% จากการลงทุนภายในระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันจดทะเบียนกองทุน โดยกำหนดทริกเกอร์ณ วันทำการใดก็ตามที่บลจ. สามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติได้ไม่ต่ำกว่า 10.4839 บาทต่อหน่วยหากไม่เกิดเหตุการณ์ทริกเกอร์ บลจ.จะเปิดให้ผู้ถือหน่วยสามารถขายคืนได้ทุกวันทำการ หากทรัพย์สินของกองทุนถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามข้างต้น โดยกองทุนจะรับซื้อคืนอัตโนมัติให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์
“หลังจากหลายๆ ประเทศได้คลาย lockdown ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้จ่ายอีกครั้ง ประกอบกับเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว ส่งผลให้กลุ่มหุ้นขนาดเล็กถึงกลางที่อาศัยแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศเป็นหลักมีโอกาสฟื้นตัวได้เร็วกว่า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจในธีม New Normal นี้เติบโตสูงขึ้นได้ นอกจากนี้ การกระจายสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำกว่าหุ้นนั้น จะเป็นตัวช่วยลดความผันผวนของพอร์ตโดยรวมได้”นายณรงค์ศักดิ์กล่าว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน กับ LINE @thansettakij