ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ธุรกิจ โรงแรม เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก มีบางส่วนต้องปิดตัวลงอย่างถาวร แต่บางส่วนที่ยังคงอยู่ได้เป็นเพราะมีสายป่านที่ยาวมากพอให้สามารถที่จะฝ่าช่วงวิกฤตนี้ไปได้
ชัยณรงค์ พิพิธวีรนันท์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมพุทธรักษา หัวหิน กล่าวว่า สำหรับส่วนตัวแล้ว คำว่า New Normal อาจไม่ใช่กับสถานการณ์ปัจจุบันซะทีเดียว ปัจจุบันมันน่าจะใช้ว่า Not Normal มากกว่า เพราะมันไม่ใช่สถานการณ์ปกติ ประชาชนการ์ดต้องแข็งแรงก่อน การ์ดต้องไม่ตก ถ้าการ์ดตกมันก็เกิดความเสี่ยงทำให้เกิดระลอก 2 ขึ้นมาได้ ถ้าเกิดรอบ 2 ขึ้น เชื่อว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ อีกกว่าครึ่งคงจะต้องปิดตัวลง
วิกฤตที่ผ่านมา เทียบไม่ติดกับโควิด-19
ในชั่วชีวิตที่ทำงานมา ผ่านมรสุมมามากมาย สงครามอ่าวเปอร์เซีย ตะวันออกกลาง ต้มยำกุ้ง เงินบาทลอยตัว เทียบไม่ติดเลยกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้มันเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง ต้มยำกุ้งเกิดเฉพาะภายในประเทศไทย ในมุมของภาคธุรกิจทั่วไปอาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ในตรงกันข้ามในส่วนของโรงแรม ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินที่อ่อนลง ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ตอนนั้นคนไทยเองส่วนหนึ่งก็ยังมีการท่องเที่ยวปกติ การได้รับผลกระทบก็ไม่ใช่ทั้งหมด
ช่วงโควิด ทั่วโลกไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ การท่องเที่ยวเราไม่ได้คาดหวังเฉพาะการท่องเที่ยวในประเทศ เราคาดหวังจากชาวต่างชาติด้วยที่จะมาจับจ่ายใช้สอย เดินทางท่องเที่ยว ช่วงนี้ของทุกปีจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ยังพอมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบ้าง แม้จะไม่เท่าช่วงไฮซีซั่นก็ตาม เรายังพอมีผลประกอบการที่พออยู่ได้ ตอนนี้มันแย่ที่สุดแล้ว มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเกิดขึ้นทั่วโลก สายการบินต่างๆ ปิด ทำให้เราต้องอาศัยไทยเที่ยวไทย อาศัยเงินจากภายในประเทศอย่างเดียว โควิด-19 ถือเป็นวิกฤตที่สุดแล้วที่เคยเกิดขึ้นมาในช่วงอย่างน้อย 30 ปี
- “ร้องไห้กันเลย” โควิดระยองทำพิษ ผู้บริหารโรงแรมบัญดาราฯ เปิดใจ ยอดแคนเซิลสูง 90 เปอร์เซ็นต์
- โรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เชียงราย เพชรบูรณ์ ราชบุรี จันทบุรี ฯลฯ
- กรมการปกครอง ช่วยผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ยกเว้นค่าธรรมเนียม ปีละ 40 บาทต่อห้อง
ความกังวลเรื่องการระบาดระลอก 2
จริงๆ นอกจากธุรกิจโรงแรมแล้ว ทุกธุรกิจน่าจะพะวงว่าในอนาคตจะมีรอบ 2 เกิดขึ้นอีกไหม ถามว่าถ้ามันเกิดขึ้นล่ะแล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดขึ้นก็คงจะแย่มากๆ แน่นอน เพราะรัฐบาลก็คงจะไม่สามารถหาเงินมาอัดฉีดประเทศได้เหมือนอย่างที่ผ่านมา รัฐบาลและทุกคนยังใหม่หมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนที่จะให้ประเทศยังคงเดินหน้าต่อไปได้อยู่ก็คือ เรื่องของการอัดฉีดเม็ดเงิน ให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย เพื่อให้ห่วงโซ่อาหารเป็นไปตามธรรมชาติ
การรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ผ่านมา รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคสาธารณสุขทำได้ดีมาก ดูแลไม่ให้ผู้ป่วยติดเชื้อ ลุกลาม กระจายไปตามภาคต่างๆ ของประเทศ ไทยเราสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวต่างชาติได้มาก ถ้าไม่เกิดระลอก 2 แล้วเรามีวัคซีนป้องกันและรักษาได้แล้ว เชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างแน่นอน
แต่ถ้าการแพร่ระบาดระลอก 2 เกิดขึ้น ตรงกันข้ามมันก็จะทำให้สร้างความไม่น่าเชื่อถือ หรืออาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของนักท่องเที่ยว ก็คาดหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้นก็คงแย่ที่สุดแล้วสำหรับทุกธุรกิจ ไม่ใช่เพียงธุรกิจท่องเที่ยว การโรงแรม เพียงอย่างเดียว
สถานการณ์ตอนนี้ เผาจริงหรือเผาหลอก
ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม พุทธรักษา หัวหิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ช่วงปลายเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ทุกคนอาจจะเห็นว่าโรงแรม โดยเฉพาะ หัวหิน-พัทยา คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทยเต็มไปหมด โรงแรมส่วนใหญ่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องบอกว่าโดยปกติตามธรรมชาติแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ใช่โควิด ช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน แม้แต่กรกฎาคม เป็นช่วงที่โลว์ที่สุดแล้วสำหรับภาคธุรกิจการท่องเที่ยว
ปีนี้เนื่องจากว่ารัฐบาลสั่งปิดช่วงโควิด ช่วงเดือนเมษายนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม มันทำให้คนไทยเองที่อิสระ ตามใจฉัน ไม่ได้ถูกบังคับให้อยู่กับบ้าน ต้องพยายามไม่ออกจากบ้าน รวมถึง ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิงต่างๆ ปิด จึงทำให้คนไทยรู้สึกอึดอัดและอัดอั้น เมื่อภาครัฐประเมินแล้วว่ามีความปลอดภัยสูง จึงคลายล็อกดาวน์เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ และด้วยความอัดอั้นตรงนั้น จึงได้ทำให้ปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประชาชนก็หลั่งไหลกันเข้ามาท่องเที่ยวกันเต็มที่
“การท่องเที่ยวช่วงเวลานี้จึงเป็น ภาพลวงตา เพราะว่า โดยปกติมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่คราวนี้มันไม่ปกติ พอมันไม่ปกติ เราจะคาดหวังในอนาคตต่อว่ามันจะเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ ธุรกิจเราแน่นอนว่ามันก็แย่ลงไปเรื่อยๆ เราไม่สามารถที่จะค้าขายกับชาวต่างชาติได้ปกติเหมือนที่ผ่านๆ มา พอมันเป็นอย่างนี้ ในอนาคตอันใกล้พรุ่งนี้มะรืนนี้ หรือแม้แต่คาดการณ์ล่วงหน้าภายใน 2 อาทิตย์ ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับการประเมินสถานการณ์ ว่านักท่องเที่ยวจะยังคงเดินทางท่องเที่ยวเหมือนช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาหรือไม่ หลายคนก็คงจะมีบัดเจทในส่วนหนึ่งที่สามารถท่องเที่ยวได้ครั้งหนึ่งที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าหลายคนมีเพียงพอแค่เที่ยวครั้งเดียวก็หมดแล้ว ไม่มีครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 แล้ว รัฐบาลออกโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นช่วยภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม ก็คาดหวังว่าจะช่วยได้ ก็มาลุ้นกันว่าจะสามารถช่วยได้มากน้อยขนาดไหน เพื่อให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้”
ชัยณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เศรษฐกิจตอนนี้ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น เราก็ภาวนาว่าจะไม่เกิดระลอก 2 ถ้าเกิดรอบ 2 ขึ้น เชื่อว่าภาค ธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ โรงแรม ต่างๆ อีกกว่าครึ่งคงจะต้องปิดตัวลง โดยที่จะไปต่อไม่ได้ เพราะว่าสายป่านแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ตรงนี้ถือว่าน่ากลัวมาก เราก็มารอลุ้นกันอย่างน้อยก็น่าจะปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าจนกว่าเราจะมีวัคซีนที่จะมาใช้ป้องกันและรักษาได้