วันอาทิตย์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) นำเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการในโครงการบ่มเพาะธุรกิจ นำร่องที่ แอพพลิเคชั่นQueQ (คิวคิว) เข้าไปเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ช่วยบริหารจัดการความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์หลังคลายล็อกดาวน์ รวมถึงความหนาแน่นของการจอดเรือในท่าเทียบเรือของอ่าวไร่เลย์แหลมพระนางเพื่อยกระดับคุณภาพของการท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าว ตอบโจทย์ “ไร่เลย์ โมเดล” ที่มุ่งจัดระเบียบและแผนพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมเดินหน้าทำงานร่วมกับจังหวัดกระบี่ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พร้อมใช้จาก สวทช. และพันธมิตรส่งต่อเพื่อใช้งานจริงในพื้นที่ ช่วยแก้ปัญหาภาคธุรกิจท่องเที่ยวกระบี่ และเป็นจังหวัดต้นแบบท่องเที่ยวตามวิถีใหม่
ศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สวทช. กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) เป็นหน่วยงานภายใต้ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สวทช. ที่สนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี ตั้งแต่เริ่มต้นกิจการจนในที่สุดสามารถดำเนินกิจการของตนได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยบริษัท คิวคิว (ประเทศไทย)จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการนวัตกรรมภายใต้โครงการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี (Incubation) ของ สวทช. และได้รับทุน Startup Voucher หรือทุนสนับสนุนในโครงการสร้างผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ ของ สวทช. บทบาทหนึ่งที่สำคัญของศูนย์ BIC คือ การสนับสนุนการจับคู่นวัตกรรม (Innovation Matching) ระหว่างเจ้าของนวัตกรรมกับผู้ใช้งานจริง เช่น ชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวไร่เลย์แหลมพระนางไร่เลย์ โมเดล กับ บริษัท คิวคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น QueQ ด้วยการนำนวัตกรรมแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ไปใช้งานจริงกับการจัดการความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์หลังคลายล็อกดาวน์ รวมถึงความหนาแน่นของการจอดเรือในท่าเทียบเรือของหาดไร่เลย์ ซึ่งนับเป็นการนำเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการในโครงการของศูนย์ BIC สวทช. เข้าไปเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่
สมบูรณ์ หง้าฝา ประธานชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวไร่เลย์แหลมพระนาง ไร่เลย์ โมเดล เปิดเผยว่า เพื่อรักษาสภาพนิเวศและอนุรักษ์ธรรมชาติให้ยั่งยืน รวมถึงยกระดับคุณภาพของการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณฝั่งทิศตะวันตกและหาดพระนาง ซึ่งเป็นหาดที่สวยที่สุดติดอันดับโลก ผู้ประกอบการในชุมชนและชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวอ่าวไร่เลย์ฯ จึงมีความคิดเห็นรวมกันว่า ควรจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ ภายใต้โครงการ “ไร่เลย์ โมเดล” ซึ่งจะเป็นตัวอย่างการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติของประเทศไทย โดยมีแผนการดำเนินโครงการไร่เลย์โมเดล ได้แก่ จัดระเบียบเรือเพื่อยกระดับคุณภาพของการท่องเที่ยวในพื้นที่อ่าวไร่เลย์ ทั้ง 3 หาด การจัดการลดปัญหาการนำขยะบนชายฝั่งมาทิ้งพื้นที่อ่าวไร่เลย์ ห้ามนำขยะหรือขวดน้ำเข้ามาในพื้นที่ การจัดการยกระดับความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เช่น ติดตั้งระบบCCTV ในเขตพื้นเส้นทางสัญจรสาธารณะการจัดการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติควบคู่ไปด้วย โดยตั้งเป้าที่การฟื้นฟูธรรมชาติ และท้ายสุดคือการปลูกฝังจิตสำนึกต่อธรรมชาติของนักท่องเที่ยวและเยาวชนรุ่นต่อไป”
รังสรรค์ พรมประสิทธิ์ CEO บริษัทคิวคิว (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แอพพลิเคชั่นQueQ คือ แอพที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อจองคิวร้านอาหารที่ไม่ต้องรอนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการด้านอื่นๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยว การสั่งอาหารกลับบ้านหรือการนั่งทานที่ร้านการนัดหมายล่วงหน้าในร้านตัดผม ร้านเสริมสวย สปา หรือคลินิก การทำจุดรับของ (Drive Thru) ของซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสด เป็นต้น ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยว แอพ QueQ ได้นำมาใช้กับการจองล่วงหน้าเพื่อเข้าอุทยานแห่งชาติ โดยใช้จริงแล้วกับทุกอุทยานฯ ที่เปิดให้บริการจำนวน 127 แห่ง จากทั้งหมด 155 แห่ง ในส่วนของอ่าวไร่เลย์แหลมพระนาง จ.กระบี่ แอพ QueQ นำมาปรับใช้กับการจัดการเรื่องความหนาแน่นของนักท่องเที่ยวตรวจสอบคิวก่อนการเข้าเกาะด้วยระบบการจองคิวเข้าสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อบริหารจัดการการท่องเที่ยวตามแนวทาง Carrying Capacity สามารถจองใช้บริการการท่องเที่ยวล่วงหน้า และการลงทะเบียนเข้า-ออกแหล่งท่องเที่ยวรวมถึงแอพ QueQ ยังสามารถนำมาใช้กับการบริหารจัดการความหนาแน่นของการจอดเรือบริเวณท่าเทียบเรือของหาดไร่เลย์ได้ด้วย สอดคล้องกับไร่เลย์โมเดลที่มีแผนการดำเนินการจัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติของประเทศไทย โดยแอพ QueQ สามารถกำหนดจำนวนการให้บริการต่อช่วงเวลาได้ จองผ่านโมบายแอพหรือเว็บก็ได้ตามโควตาของแต่ละช่วงเวลา รวมถึงยังมีบริการจ่ายผ่านแอพด้วยช่องทางที่หลากหลาย สร้างรายงานการใช้บริการอัตโนมัติ รองรับผู้ใช้งานแบบไม่จำกัดจำนวน พร้อมมีทีมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และใช้เวลาขึ้นระบบเพียง 1 วันเท่านั้น