รวบ 5 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ยึดทรัพย์กว่า 5 ล้านบาท

กาญจนบุรี – เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง บุกรวบ 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ยึดทรัพย์กว่า 5 ล้านบาท

วันนี้( 22 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่ 327 และ เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่ถนนสายบ้านงิ้วเฒ่า-บ้านป่าสักน้อย ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

สามารถยึดยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบอรนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ศฐ 8807 กทม.ได้ จำนวน 3,036,000 เม็ด และยาไอช์ อีก จำนวน 40 กิโลกรัม ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งสามารถหลบหนีไปได้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนี พร้อมกับสืบสวนหาผู้ร่วมกระทำผิดในคดีดังกล่าว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 6 ต.ค.62

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ 22 ก.ค.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ปปส.ภาค7 เจ้าหน้าที่สำนักปราบปรามยาเสพติด (ปป.2) สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน กก.สส.ภ.จว.เชียงราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ บก.สส.ตร.ภ.5ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ กองกับการการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหาร กกล.สุรสีห์

ร่วมปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการดำเนินการขยายผลตาม พรบ.มาตรการยาเสพติด มาตรา 6 และมาตรา 8 จากการขยายผลการจับกุมยาเสพติดข้างต้น โดยมีหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงรายรวม 5 หมาย

ผลการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 5 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 1 ราย หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 5 รายถูกจับกุมตัว เจ้าหน้าที่จึงใช้มาตรการยึด อายัดทรัพย์สินที่เชื่อได้ว่าได้มาจากการค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดอายัดมีทั้งสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รวมทั้งพระเลี่ยมทอง และสมุดเงินฝาก มูลค่ารวมกันกว่า 5 ล้านบาท

ขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป