วันที่ 23 ก.ค. 2563 เวลา 08:40 น.
แค่มาดูสัตว์มันน้อยไป!! ซาฟารีเวิลด์ New Look ในยุค New Normal เพิ่มแอคทิวิตี้สุดเทรนดี้ เติมความสนุกสุดตื่นเต้นที่ใครได้เห็นต้องว้าววววว!!!
เรื่องและภาพ : วารุณี มณีคำ
กินเที่ยวครั้งนี้ โพสต์ทูเดย์ ชวนท่อง ซาฟารีเวิลด์ (Safari World) ดินแดนที่ครั้งหนึ่งเคยได้มาทัศนศึกษาชมอาณาจักรสัตว์ป่าแอฟริกา ล่องลุ่มน้ำอเมซอน ดูการแสดงโชว์สุดตื่นตาจนกลับไปเล่าให้ปู่ย่าฟังด้วยความตื่นเต้น
มีโอกาสได้กลับมาใหม่หลังจากวันที่สวนสัตว์ต้องงดให้บริการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ความตื่นเต้นในวันเก่าก็หวนกลับมาอีกครา แต่ครั้งนี้เติมความแปลกตาด้วยสัตว์ชนิดใหม่ การแสดงโชว์ที่เร้าใจกว่าเดิม และเมนูในธีมซาฟารีที่ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพมุมไหนก็สวยจนเพื่อนๆ ในโซเชียลต้องอิจฉา
1 วันในซาฟารีเวิลด์ เราจะได้ทำกิจกรรมสุดมัน(ส์)มากมาย เริ่มตั้งแต่ช่วงสาย บุกซาฟารีปาร์ค (Safari Park) โซนสวนสัตว์เปิดที่มีสัตว์หลากสายพันธุ์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ รวมระยะทางกว่า 8 กม. นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์เข้าไปด้วยตนเองหรือใช้บริการรถโค้ชของซาฟารีเวิลด์ (ค่าบริการคนละ 60 บาท) เพื่อตื่นตาตื่นใจไปกับสัตว์ป่าอนุรักษ์ สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์แปลกและสัตว์หายากนับพันตัว นอกจากนี้ ยังมีอุทยานนกน้ำที่หาดูได้ยากในประเทศไทย มีฝูงนกนานาชนิดทั้งใหญ่และเล็กที่ส่วนใหญ่บินมาจากท้องฟ้าตามธรรมชาติ เพื่ออาศัยทำรังวางไข่ลอดทั้งปี เพราะที่นี่เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์
สำหรับแอคทิวิตี้ที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงในซาฟารีปาร์คคือ การชมโชว์ฟีดดิ้ง (เวลา 10.00 น.) ดูการให้อาหารเสือและสิงโตแบบใกล้ชิด ต่อด้วยการนั่งรถชมสัตว์นานาชนิด แต่ละจุดจะได้เห็นฝูงม้าลาย ยีราฟ แรดขาว ควายป่า หมี ระหว่างทางจะผ่านจุดที่รถถูกรายล้อมไปด้วยนกที่หาดูได้ยากสายพันธุ์ต่างๆ เรียกว่าได้ฟีลเหมือนขับรถลุยแอฟริกาเลยทีเดียว
ออกจากสวนสัตว์เปิด มุ่งตรงสู่มารีนปาร์ค (Marine Park) พื้นที่ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ให้บรรยากาศเหมือน “ป่ากลางกรุง” เดินชมสัตว์และโชว์ต่างๆ ได้ตามอัธยาศัยในพื้นที่กว่า 250 ไร่ มีทั้งโซนแสดงสัตว์น้ำ แวะชมความอลังการกับที่สุดของโชว์ระดับโลกทั้ง 7 โชว์ ตื่นเต้นกับสเปเชี่ยลเอฟเฟ็กต์ ทึ่งกับความแสนรู้และความสามารถที่เกิดจากการฝึกฝน
พร้อมชมโซนใหม่ มินิเวิลด์ เอาใจน้องๆ หนูๆ ถ่ายรูปคู่กับนกน้อยน่ารักที่บินมาเกาะตามตัว เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียว อีกจุดที่ต้องหยุดเดินคือ มาคอว์แลนด์ จุดแลนด์มาร์คที่สามารถถ่ายภาพกับนกแก้วมาคอว์ถึง 250 ตัว และโซนใหม่ Parrots Lane ป่านกแก้วสายพันธุ์หายาก อาทิ นกคอนัวร์สีทอง (Golden conure) นกแก้วอเมซอนหัวเหลือง (Double yellow-headed amazon)
ถึงจุดเด็ด Giraffe Terrace โซนที่ใครไม่ได้ช็อตรูปคู่กับยีราฟเหมือนมาไม่ถึงซาฟารีเวิลด์ พบกับยีราฟกว่า 200 ตัว กับเทอเรสที่ปรับปรุงใหม่ที่เปิดโอกาสให้ได้ใกล้ชิดกับสัตว์ตัวใหญ่คอยาว พร้อมให้อาหารยีราฟ แล้วชักภาพสวยๆ รัวๆ
กลับบ้านไม่ได้ถ้ายังไม่ได้แวะทักทายกับอุรังอุตังแสนรู้ อีกไฮไลท์เด็ดกับการถ่ายภาพแบบ Social Distancing ด้วยท่าทางสุดน่ารัก มีฉากใสกั้น ที่สำคัญคือใครไม่เคยเห็นอุรังอุตังล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ต้องอมยิ้ม เพราะที่นี่เค้าฝึกมาดีชนิดที่คนทำอย่างไร ลิงทำอย่างนั้น
นอกจากนี้ ยังมีโซน Primate World รวบรวมลิงสายพันธุ์หายากต่างๆ อาทิ แมนดริล (Mandrill) ค่างห้าสี (Red-shanked douc langur) ลิงโคโลบัส (Abyssinian black-and-white colobus) ภายในยังมีอาณาจักรของลีเมอร์ (Lemur) ที่เรียกว่า “ลีมูเรีย“ (Lemuria) รวมลีเมอร์หลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ลีเมอร์หางปล้อง (Ring-tailed lemur) ลีเมอร์สองสี (Black-and-white ruffed lemur
พบโซนสัตว์มาใหม่จากอเมริกาใต้ อย่างนกโทโก ทูแคน (Toco toucan) และจากแอฟริกา อาทิ เต่าเดือยแอฟริกา (Sulcata tortoise) โซนป่าของเอเชียที่รวบรวมสัตว์ประเภทต่างๆ อาทิ สัตว์ป่าสงวนของไทยอย่างสมเสร็จ ตะโขง และห้ามพลาด! ลูกสิงโตเผือกเกิดใหม่ จัดแสดงในโซนโลกของสัตว์สีขาว White World
สำหรับ 7 โชว์ไฮไลท์ของซาฟารีเวิลด์บนเวทีการแสดงที่ยิ่งใหญ่ ในยุค New Normal มีการจัดที่นั่งแบบไม่แออัด สามารถรักษาระยะห่างกันได้เพื่อชมการแสดงสุดประทับใจ อาทิ โชว์โลมาแสนรู้ การแสดงสงครามจารกรรมที่ปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ทางเข้าสุดอลังการ และยังมี Manatee Aquarium ขนาดใหญ่ เพื่อชมน้องใหม่ ‘วัวทะเล’ สัตว์น้ำหายากจากประเทศคองโก แอฟริกา มีที่แรกในไทย และเพียงแห่งที่ 2 ของเอเชีย
ระหว่างวันไม่ต้องกลัวหิว เพราะที่นี่มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไว้คอยบริการตลอดเส้นทางเดิน แถมมาในธีมซาฟารี มีรูปสัตว์และเมนูพรีเซนเทชั่นไม่หลุดธีมสวนสัตว์เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ซาฟารีเวิลด์มีมาตรการการรักษาระยะห่าง ปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐอย่างเข้มงวด โดยได้ผ่านการตรวจประเมินจากสำนักงานเขต และกรุงเทพมหานคร ก่อนเปิดให้บริการในครั้งนี้ พื้นที่ภายในเป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบกลางแจ้ง พื้นที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทใต้ต้นไม้ร่มรื่น ตามมาตรฐาน Social Distancing สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 10,000 คนต่อวัน มีมาตรการคุมเข้มดูแลรักษาสุขภาพ และสุขอนามัย ทั้งนักท่องเที่ยว พนักงาน และสัตว์กว่า 50,000 ตัว มีจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ และเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าใช้บริการและภายในปาร์ค มีการรักษาระยะห่างในการเที่ยวชมสำหรับนักท่องเที่ยวและสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะจุดที่นั่งสำหรับชมการแสดง จุดทานอาหาร การเปิดให้ลงทะเบียนเข้า-ออก ผ่านแพลตฟอร์ม ‘ไทยชนะ’
ร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ New Normal สุดพิเศษในครั้งนี้ก่อนใครที่ ซาฟารีเวิลด์ เดือนกรกฎาคมนี้ ซาฟารีเวิลด์เปิดให้บริการในวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-5181000 ที่หรือ https://www.facebook.com/safariworld.bangkok