ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา คนที่ 30 แถลงนโยบายการบริหารงานกรมพลศึกษาให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมพลศึกษา ชูนโยบาย 1 ตำบล 1 กีฬา
เมื่อวันที่ 23 ก.ค.63 ที่อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา คนที่ 30 แถลงนโยบายการบริหารงานกรมพลศึกษาให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมพลศึกษา ได้รับทราบถึงแนวทางการบริหารงานโครงการต่างๆ โดยมีผู้บริหารกรมพลศึกษา ร่วมเป็นเกียรติ
ดร.นิวัตน์ กล่าวว่า กรมพลศึกษายุคใหม่ จะต้องปรับตัวให้เป็นองค์กรผู้เชี่ยวชาญ และมีศักยภาพในการดำเนินงานด้านการพลศึกษาสุขภาพ การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และการพัฒนาบุคลากรสาขาที่เกี่ยวข้อง สร้างและพัฒนาเครือข่ายกีฬา นันทนาการ และวิทยาศาสตร์การกีฬา ให้มีความเข้มแข็ง เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน ได้เล่นกีฬา ออกกำลังกาย และประกอบกิจกรรมนันทนาการอย่างทั่วถึง วางรากฐานการกีฬาของชาติและองค์ความรู้ในทุกมิติ ตามยุทธศาสตร์ชาติที่ให้ความสำคัญกับการกีฬาและนันทนาการ บนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและเสริมสร้างสุขภาวะ และจากตามแนวคิดของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ วิจิตร บุณยโหตระ ที่กล่าวว่า“หมอทำหน้าที่รักษา พลศึกษาทำหน้าที่ป้องกัน” กรมพลศึกษา จึงมีหน้าที่ที่สำคัญ คือ การส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความสุข
ความปลอดภัย และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนในพื้นที่โดยการส่งเสริม เผยแพร่ความรู้ อบรมบุคลากร ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสินกีฬา และอาสาสมัครทางกีฬาทั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เด็ก เยาวชน ประชาชน และผู้ด้อยโอกาส ทุกเพศ ทุกวัย มีสมรรถภาพสมบูรณ์ แข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง มีน้ำใจนักกีฬา จากการออกกำลังกาย เล่นกีฬา เเละร่วมกิจกรรมนันทนาการจนเป็นวิถีชีวิต สร้างความสุข ความปลอดภัย และยั่งยืน ดังนั้น เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงมีแผนดำเนินงานตามภารกิจสำคัญของหน่วยงานที่ขับเคลื่อนให้คนไทยออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนันทนาการสม่ำเสมอเพิ่มขึ้น
“สร้างขวัญกำลังใจให้ข้าราชการและบุคลากรของกรมพลศึกษาทุกระดับ ให้สามารถสร้างสรรค์งานร่วมกันอย่างมีความสุข บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายไปพร้อม ๆ กัน ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี สนับสนุนช่วยเหลือการทำงานในทิศทางเดียวกัน เป็นบุคลากรที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต มุ่งผลสัมฤทธิ์ของ การปฏิบัติงานอย่างชัดเจน”
“ประเด็นต่อมา คือการตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้ความสำคัญในส่วนของของตำบลมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยจะผลักดันให้เกิด 1 ตำบล 1 ชนิดกีฬา จากการจัดอบรมอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกาย (อสก.) ให้ครบทุกหมู่บ้าน มุ่งส่งเสริมการจัดกิจกรรมของอาสาสมัครกีฬาและผู้นำการออกกำลังกาย (อสก.) พร้อมสนับสนุนด้านอุปกรณ์ องค์ความรู้ และเทคโนโลยี และร่วมดำเนินการกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้เกิดตำบลเข้มแข็ง มีสุขภาวะที่สมบูรณ์ เป็นตำบลน่าอยู่ที่สุด รวมกันทั้งประเทศเป็นประเทศไทยที่น่าอยู่ที่สุด”
“นอกจากนี้ยังทบทวนแผนยุทธศาสตร์และเป้าหมายที่กรมพลศึกษารับผิดชอบ ตามรัฐธรรมนูญ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) รวมถึงเเผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ที่มุ่งหวังให้คนไทยมีสุขภาพดีทั้งร่างกาย จิตใจ ปัญญา และสังคม ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งเด็ก เยาวชน ประชาชน และผู้ด้อยโอกาส ทุกเพศ ทุกวัย ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการออกกำลังกายและกีฬา ขั้นพื้นฐานให้กลายเป็นวิถีชีวิต พร้อมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เทศบาล การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬา และสมาคมกีฬาจังหวัด”
“สุดท้ายเร่งรัดจัดทำฐานข้อมูลบุคลากรทางการพลศึกษาและกีฬา ผู้นำการออกกำลังกาย และประชาชน เพื่อให้การสนับสนุนวิทยาการความรู้ทางพลศึกษา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา มุ่งเน้นส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อเป็นเครือข่าย/ชมรมในแต่ละด้าน เช่น ชมรมกีฬา ศูนย์นันทนาการชุมชน ชมรมแอโรบิค เครือข่ายนันทนาการ”