
อย่างที่ทราบกันไปแล้ว กีฬาแทบทุกประเภทของเมืองไทย กลับมาแข่งขันจากพิษไวรัส “โควิด-19” ได้บ้างแล้ว แต่จะเป็นการแข่งขันแบบ New Normal ที่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม แข่งกันแบบไม่มีคนดู ลดการสัมผัสมือ เพื่อตัดทางเชื่อมต่อของเชื้อไวรัสดังกล่าว
แต่ยังมีกีฬาหลักบางประเภท ยังไม่สามารถทำการแข่งขันได้ โดยเฉพาะ “ฟุตบอลลีกอาชีพไทย” ที่ยังต้องรอไปจนถึงวันที่ 12 ก.ย.63 เนื่องด้วยเหตุผลเรื่องมติที่ประชุมสโมสรสมาชิกเมื่อวันที่ 14 เม.ย.63
ไม่ใช่ว่าฟุตบอลยังไม่สามารถแข่งขันได้เลยทั้งหมด … ฟุตบอลนักเรียน ในระดับขาสั้น ของ กรมพลศึกษา ก็ได้ฤกษ์ฟาดแข้งไปแล้ว กับรูปแบบการแข่งขัน New Normal ตั้งแต่เดินทางมาถึงหน้าปากทางเข้าสนามศุภชลาศัย
มีการตรวจวัดอุณหภูมิของทุกคน , ใส่หน้ากากอนามัย , ลดการสัมผัสมือ , ถ่ายรูปทีมแบบใหม่ด้วยการเว้นระยะห่าง อีกทั้งยังห้ามแฟนบอลเข้าสนาม เป็นการเตะแบบไม่มีผู้ชมด้วย
ลองมาฟังมุมมองของ 2 โค้ชฟุตบอลนักเรียนที่ออกมาแสดงความเห็นกับรูปแบบการจัดฟุตบอลไทย แบบ New Normal ซึ่ง ฟุตบอลนักเรียน กรมพลศึกษา ถือเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการที่แรกที่กลับมาฟาดแข้งหลังวิกฤต โควิด-19 ด้วย
โดย “ประนุพงษ์ ปิ่นสุวรรณ” กุนซือใหญ่ “อินทรีแดง”อัสสัมชัญ เปิดเผยว่า “ส่วนตัวผมถือว่าโอเคนะครับ กับการแข่งขันแบบนี้ ในเรื่องของการเซฟหลายๆเรื่อง ผมมองว่าก็โอเค ได้มาตรฐานมากๆครับ”
ส่วน “ณัฐวุฒิ วิจิตรเวชการ” กุนซือ “ฉลามชลจูเนียร์”ท่าข้ามพิทยาคม ชลบุรี แชมป์เก่าฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา 18 ปี ก. เมื่อปีที่แล้ว เผยถึงรูปแบบฟุตบอล New Normal ด้วยว่า
“ผมว่าฟุตบอลแบบ New Normal ดีครับ ดีกว่าที่ไม่มีการแข่งขัน เพราะเรามุ่งเน้นที่จะพัฒนาเยาวชนอยู่แล้ว ก็ดีใจที่กรมพลศึกษาจัดการแข่งขันขึ้นมา เพื่อให้เด็กได้มีเกมการเล่นที่ต่อเนื่องทุกๆปี สำหรับผมก็ถือว่าก็โอเค เพราะเขามีการจัดการ มีระบบป้องกันที่ดีที่ปลอดภัย ทุกอย่างก็โอเค ราบรื่นครับ”
หลายคนคงอยากให้ฟุตบอลไทยลีกหรือลีกอื่นๆกลับมาเตะให้ได้แบบฟุตบอลนักเรียน เพราะเชื่อว่าตอนนี้ แฟนบอลไทยคงอยากดูฟุตบอลกันแล้ว แม้จะเป็นการต้องดูผ่านการถ่ายทอดสดก็ตาม ยังอยากดูอยู่ดี
มุมมอง 2 กุนซือฟุตบอลนักเรียน กับการเตะแบบ New Normal
Add friend ที่ @Siamsport
