ติอาโก้ คือแข้งทีมชาติสเปนที่จริงๆแล้วเขาสามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติได้ถึง 3 ชาติ แม้จะเติบโตมาจากอะคาเดมีของบาร์เซโลน่า แต่ติอาโก้ได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ในการย้ายมาสร้างชื่อกับบาเยิร์น มิวนิค และกลายเป็นมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลยุคใหม่
มาดูกันว่ามีเรื่องน่ารู้อะไรเกี่ยวกับชายคนนี้บ้าง
1) ท่าดีใจกล่อมเด็กในตำนาน
พ่อของติอาโก้คือ “มาซินโญ่” หนึ่งในขุนพลนักเตะแซมบ้าชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา แต่ภาพหนึ่งที่แฟนบอลทั่วโลกยังจำได้ดีก็คือ ในเกมรอบก่อนรองชนะเลิศที่บราซิลเอาชนะเนเธอร์แลนด์ไปได้ 3-2 ประตู หลังเบเบโต้ ตำนานดาวยิงแซมบ้าซัดประตูที่สองให้บราซิลได้ เขาวิ่งไปดีใจที่ข้างสนามพร้อมกับมาซินโญ่และโรมาริโอ้
ทั้งสามคนทำท่าแกว่งแขนเลี้ยงเด็กเพื่อฉลองที่เบเบโต้เพิ่งได้ลูกชายไปไม่นาน และลูกชายคนนั้นก็เติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพเหมือนพ่อ เช่นเดียวกับมาซินโญ่ที่ได้ลูกชายเป็นมิดฟิลด์ห้องเครื่องทีม “เสือใต้” คนนี้
2) สามทางเลือก
แม้พ่อของติอาโก้จะเป็นชาวบราซิล แต่ด้วยอาชีพค้าแข้งที่ต้องย้ายถิ่นฐานบ่อยครั้ง ติอาโก้จึงเกิดในอิตาลีและกลับไปหัดเล่นฟุตบอลที่กรุงริโอในบราซิลกับอะคาเดมีของสโมสรฟลาเมงโก้ จากนั้นจึงย้ายมายังสเปนและได้เซ็นสัญญากับทีมบาร์เซโลน่าในขณะอายุได้ 14 ปี
ติอาโก้สามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติบราซิลหรืออิตาลีก็ได้ แต่เขากลับขัดใจพ่อด้วยการเลือกเล่นให้ทีมชาติสเปน เริ่มตั้งแต่ทีมชาติเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปีและก้าวสู่รุ่นอื่นๆ เรื่อยมา “ก็ผมอยู่และเติบโตมาในสเปนนี่นา” ติอาโก้อธิบาย
3) Why always me?
มาริโอ บาโลเตลลี ศูนย์หน้าชาวอิตาเลียนเกือบจะได้ย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่าแล้วในช่วงที่ยังเป็นดาวรุ่ง เขาเคยไปทดสอบฝีเท้ากับบาร์ซ่าในปี 2006 และสนิทสนมกับติอาโก้อย่างรวดเร็ว แม้สุดท้ายบาโลเตลลีจะไม่ได้เซ็นสัญญากับทีมเจ้าบุญทุ่ม แต่เขาก็ยังคงความสัมพันธ์อันดีกับติอาโก้เสมอมา
หลังเกมประเดิมสนามกับทีมชาติสเปนซึ่งทีม “กระทิงดุ” พ่ายให้อิตาลีไปในนัดอุ่นเครื่อง 1-2 ประตู ติอาโก้กำลังถูกสื่อสัมภาษณ์ข้างสนาม เมื่อบาโลเตลลีเห็น เขารีบปรี่เข้ามาหากล้องและตะโกนว่าใส่ว่า “el más grande!” หรือที่แปลว่า “ชายคนนี้ยิ่งใหญ่ที่สุด!” เป็นแอคชั่นที่น่าจะทำให้ติอาโก้ประทับใจไม่น้อย
4) Made in “ลา มาเซีย”
ติอาโก้บ่มเพาะฝีเท้ามาจากอะคาเดมีเดียวกันกับแข้งมิดฟิลด์ระดับเวิลด์คลาสอย่าง อันเดรส อิเนียสต้า และชาบี เอร์นันเดซ หรือที่เรียกว่า “ลา มาเซีย” เขาได้ลงประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในฤดูกาล 2008/09 ซึ่งเป็นซีซั่นแรกของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในฐานะนายใหญ่ในถิ่นคัมป์นู โดยติอาโก้ใช้เวลาอยู่สามปีนับจากนั้นในการยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม
แม้จะกำลังไปได้สวยกับบาร์ซ่า แต่ติอาโก้ก็สร้างข่าวช็อควงการด้วยการย้ายไปอยู่กับบาเยิร์นในฤดูกาล 2012/13 แต่ถึงจะย้ายไปเล่นในเยอรมนีแล้ว ติอาโก้ก็ยังคงมีสัมพันธ์ที่ดีกับซี้เก่าอย่างเซร์คิโอ บุสเกตส์ จอร์ดี้ อัลบา และมาร์ค บาร์ทรา
5) น้องชาย
ราฟินญ่า น้องชายร่วมสายเลือดของเขาก็เป็นนักเตะมิดฟิลด์ทีมบาร์เซโลน่าเช่นกัน แต่ในระดับทีมชาติ ราฟินญ่าเลือกเล่นให้กับบราซิล เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก วาเลเรีย ผู้เป็นแม่จึงเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเชียร์ทีมไหนดี
6) เบิกประตูแรกอย่างงดงาม
ประตูแรกของติอาโก้ในสีเสื้อทีมบาเยิร์นเกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศศึกฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก หรือ คลับเวิลด์คัพปี 2013 ซึ่งทีมเสือใต้ต้องพบกับราบัต คาซาบลังกา จากประเทศโมร็อคโค เขายิงประตูปิดกล่องให้ทีมเอาชนะไปได้ 2-0 ช่วยให้ทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าคว้าแชมป์ที่สองหลังเข้ามาคุมทีมได้เพียง 6 เดือนแรก โดยก่อนหน้านี้เป๊ปเพิ่งพาทีมเสือใต้คว้าแชมป์เหนือเชลซีได้ในศึกยูโรเปียน ซูเปอร์คัพ เมื่อช่วงต้นปีนั้น
7) ผลผลิตจากเป๊ป
แม้เป๊ปจะย้ายไปคุมทีมแมนฯ ซิตี้ ในปี 2016 แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบทางลบกับติอาโก้แต่อย่างใด ตรงกันข้าม ติอาโก้กลับยิ่งได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้นและโชว์ฟอร์มดีขึ้นภายใต้การคุมทีมของคาร์โล อันเชล็อตติ ในฤดูกาล 2016/17 ติอาโก้สร้างผลงานดีที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ได้โอกาสลงเล่นรวม 2,291 นาทีซึ่งมากเป็นเกือบสองเท่าของฤดูกาลก่อนหน้า ยิงรวม 6 ประตูและจ่าย 5 แอสซิสต์ เมล็ดพันธุ์ที่เป๊ปได้หว่านเอาไว้ในถิ่นเสือใต้เริ่มผลิดอกออกใบเต็มที่แล้ว
“จะให้ผมพูดถึงติอาโก้ยังไงดี? เขาคือความฝันของโค้ชทุกคนเลยล่ะ” นิโก้ โควัช อดีตกุนซือทีมบาเยิร์นกล่าว “เรามีมิดฟิลด์ฝีเท้าสุดยอดให้เลือกใช้เต็มไปหมด แต่ติอาโก้คือหัวใจของเกมแดนกลางของเรา เป็นนักเตะที่ทำได้ทุกอย่าง”
8) สกิลเทพ
ติอาโก้ไม่เพียงเป็นนักเตะที่มีทักษะการเลี้ยงและคอนโทรลบอลสูงมาก แต่เขายังเป็นตัวเซ็ตเกมที่สามารถเปิดเกมรุกจนไปจบที่การได้ประตูอย่างที่เราเห็นกันบ่อยๆ ซึ่งเป็นเพราะการจ่ายบอลอันแม่นยำของเขานั่นเอง ตลอด 6 ฤดูกาลที่ค้าแข้งในบุนเดสลีกา ติอาโก้มีอัตราจ่ายบอลสำเร็จเกิน 90% เสมอ
9) ติอาโก้และซานต้า
แม้ติอาโก้จะเป็นเทพในเรื่องการจ่ายบอล แต่นักปราชญ์ย่อมมีรู้พลั้ง ในเกมบุนเดสลีกากับแอร์เบ ไลป์ซิก เมื่อปลายปี 2016 จังหวะนั้นเขาได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนจะตัดสินใจจ่ายบอลไปยังฝั่งซ้ายให้เพื่อนร่วมทีม ทว่าคนที่ใส่ชุดสีแดงสีเดียวกับทีมของเขาทางกราบซ้ายที่ว่านั้นนั้นไม่ใช่เพื่อนร่วมทีมเสือใต้ แต่เป็นซานตาคลอสที่กำลังวิ่งอยู่ในบอร์ดโฆษณาริมสนามที่ดูเหมือนกำลังวื่งเติมเกมขึ้นมา
แม้เพื่อนร่วมทีมจะวิ่งกลับมารับบอลได้ทันเพื่อกู้หน้าให้ติอาโก้ แต่ก็ยังไม่วายโดนทีมโซเชียลมีเดียของบาเยิร์นแซวด้วยการโพสต์คลิปเหตุการณ์นั้นและประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัวซานต้ามาร่วมทีม
10) มูลนิธิอัลคันทาร่า
ติอาโก้คือผู้ก่อตั้งมูลนิธิอัลคันทาร่าร่วมกับน้องชาย พ่อ แม่ และจูเลีย ภรรยาของเขา มูลนิธิอัลคันทาร่าใช้กีฬาฟุตบอลเพื่อให้ความรู้และเป็นศูนย์รวมแก่เด็กๆ ในประเทศบราซิล เยอรมนี และสเปน “คุณค่าของกีฬาสามารถถ่ายทอดไปยังแง่มุมอื่นๆของชีวิตได้” ติอาโก้เขียนไว้ในเว็บไซต์ของมูลนิธิ