เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โครงการ “The Guru ปันความรู้ จากกูรู สู่ภูมิภาค” เสริมทักษะผู้ประกอบการ ในเรื่องวิธีการทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาด และความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้จากหลักสูตร Digital Transformation และ Big Data ภายใต้ระบบการเรียนรู้ ในรูปแบบ E-Learning พร้อมเผย 3 เทคนิคช่วยทรานส์ฟอร์มธุรกิจให้ตอบโจทย์ในยุคดิจิทัล โดย เคน – นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว The Standard ดังนี้
1.เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ ก่อนจะเริ่มทรานส์ฟอร์มธุรกิจนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าผู้บริโภคเป็นคนเดิมแต่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนเดิม เพราะปัจจุบันคนไทยกว่า 90% สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ และใช้เวลาบนนั้นกว่า 9 ชั่วโมง จึงทำให้นิยมซื้อสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์ทั้งโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์ม e-Commerce มากตามไปด้วย ส่งผลให้ธุรกิจต้องย้ายหน้าร้านเข้าไปอยู่บนโลกออนไลน์ ซึ่งสิ่งที่ตามมา คือ ต้องรู้ว่าผู้บริโภคอยู่ที่ไหน มีพฤติกรรมอย่างไร เพื่อให้สามารถวางแผนการขายสินค้าได้ตรงจุด โดยมีพฤติกรรมหลักๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนี้
– ผู้บริโภคชอบความรวดเร็ว เมื่อต้องการซื้อสินค้าชนิดไหน แล้วทำการกดค้นหาจะต้องเจอสิ่งที่ต้องการทันที ยิ่งถ้าคุณเป็นร้านแรกๆ ที่ขึ้นมา ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากดเข้ามาดูร้านของคุณมากขึ้น
– ผู้บริโภคเสพติดความสะดวกสบาย เทคโนโลยีปัจจุบันตอบสนองต่อความรวดเร็ว แค่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา จากเดิมที่เคยเลือกซื้อสินค้าจากหน้าร้านก็หันมาซื้อบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ธุรกิจของคุณจำเป็นต้องช่วยอำนวยความสะดวกให้มากที่สุดและมีความพร้อมที่จะให้บริการได้อย่างรวดเร็ว
– ผู้บริโภคมีความต้องการที่สูงขึ้น โดยต้องการเห็นสินค้าที่หลากหลาย และชอบการเทียบราคา เพื่อหาสินค้าที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น หากธุรกิจของคุณมีการเรียนรู้จนเกิดความเข้าใจและสามารถตอบโจทย์ทั้งหมดนี้ได้ ก็จะครองใจผู้บริโภคไปเต็มๆ
2. เริ่มต้นทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วย Big Data ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพ SMEs หรือองค์กรขนาดใหญ่ระดับประเทศ ล้วนมีจุดเริ่มต้น และหัวใจสำคัญในการทรานส์ฟอร์มที่เหมือนกัน คือ Big Data ซึ่งเป็นข้อมูลขนาดใหญ่ทุกชนิดที่อยู่ในองค์กร โดยเริ่มจากการนำข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้บริโภคจำนวนมาก มาตอบคำถามว่าธุรกิจนั้นมีลูกค้ากี่คน แบ่งเป็นเพศหญิงหรือเพศชายในสัดส่วนเท่าไหร่ อาศัยอยู่จังหวัดไหน และต้องตั้งราคาเท่าไหร่ถึงจะได้กำไรสูงสุด ซึ่งต้องนำข้อมูลผู้บริโภคมาวิเคราะห์ให้เป็นระบบ เปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นมาเป็น “ข้อมูลเชิงลึก” เพื่อให้เข้าใจรูปแบบพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ซับซ้อนมากขึ้น และนำข้อมูลที่ได้มาวางกลยุทธ์ให้ตรงใจผู้บริโภค ไปจนถึงการผลิตสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง
3. เปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้เป็นดิจิทัล การสร้างองค์กรให้มีความแข็งแกร่งเพื่อรองรับโลกยุคใหม่ ต้องเริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนวิธีคิดหรือโมเดลธุรกิจแบบเก่า โดยใช้ Digital Business Model เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้น เปลี่ยนการเก็บข้อมูลเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด เพื่อให้สามารถดึงมาใช้ได้ตลอดเวลา และง่ายต่อการหยิบยกข้อมูลมาใช้บูรณาการร่วมกัน เช่น การดูข้อมูลจากแผนกจัดซื้อว่ามีการซื้อวัตถุดิบที่ใช้ผลิตจำนวนเท่าไหร่ สอดคล้องกับยอดขายในแผนกการตลาดหรือไม่ เป็นต้น โดยนำข้อมูลเหล่านั้นมาแก้ไขในจุดที่ยังขาด ไปจนถึงพัฒนาการทำงานในองค์กรให้แข็งแกร่ง เช่น การทำงานในสถานการณ์ปัจจุบันที่องค์กรต้องหันมาทำงานในรูปแบบ Work From Home และการประชุมในรูปแบบ Online หากข้อมูลทั้งหมดอยู่ในรูปแบบดิจิทัลก็จะสะดวกต่อการนำมาใช้งาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นแต้มต่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเดินหน้าไปได้ไกลจนประสบความสำเร็จได้
ขอบคุณข้อมูลจาก สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ – โครงการ “The Guru ปันความรู้ จากกูรู สู่ภูมิภาค” ภายใต้การเรียนรู้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดย เคน The Standard หลักสูตร Digital Transformation และ Big Data
สามารถรับชมเรื่องราวเต็มๆ ได้ทางลิงค์ https://e-academy.ditp.go.th/theguru/lesson/GURU002
*******************************************************
** * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า”SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุดและร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *
SMEs manager