ฟันคอหลานดับอนาถ! น้าโหดแค้นฝังใจ ถูกจับได้ย่องขโมยข้าว

ศูนย์ข่าวขอนแก่น – ฆ่าโหด! น้าชายใช้มีดพร้าตัดอ้อย ฟันคอหลานดับคาที่ขณะให้น้ำไก่ชน เหตุแค้นฝังใจ ปมหลานชายจับได้น้าแอบย่องขโมยข้าวสารไปขาย จนเกิดการชกต่อยภายในบ้าน ทั้งตัวเองสู้หลานไม่ได้ จึงก่อเหตุ สุดท้ายตำรวจตามรวบตัวได้แล้ว

วันนี้ (28ก.ค.) พ.ต.ท.ภูวมินทร์ อินนอก สารวัตรเวรพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากนายไพบูลย์ เกตุครื้น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านโคกใหญ่ ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง ว่ามีเหตุน้าชายใช้มีดพร้าฟันคอหลานชายเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 174 บ้านโคกใหญ่ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดิ์ดาวัชรานนท์ ผกก.ทราบ และสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง ออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมประสานไปยังแพทย์หญิงไทยอักษร รักษาภักดี แพทย์เวร โรงพยาบาลน้ำพอง มูลนิธิศาลเจ้าพ่อน้ำพองจุดทรายมูล ไปยังที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ใกล้กับ รพ.สต.บ้านโคกใหญ่ บริเวณลานหลังบ้านเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงไก่ชนจำนวน 8 ตัว ถูกขังอยู่ภายในสุ่มไก่ ใกล้กันนั้นมีร่องรอยของขมิ้นชันขูดกับสังกะสีเจาะรูเพื่อนำไปทาตัวไก่ชน ใกล้กันพบศพผู้ตาย ทราบชื่อนายเทพพิทักษ์ วงษ์รินยอง อายุ 28 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ สวมเสื้อสีดำ กางเกงขายาวสีเทา ถูกของมีคมฟันที่ท้ายทอยด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สอบถามนางรำไพ วงษ์รินยอง อายุ 45 ปี มารดาของผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุเป็นน้าชาย ก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 วันได้มีเหตุทะเลาะกันระหว่างหน้ากับหลาน เนื่องจากหลานชายคือน้องเจ จับได้ว่าน้าวุฒิเข้ามาลักข้าวสารภายในบ้านไปขายหลายครั้งจึงเข้าไปตักเตือน ก่อนที่น้าชายจะถูกหลานชกต่อยเนื่องจากเตือนไม่ฟัง ซึ่งตัวน้าสู้ไม่ได้ ได้หลบออกไปพร้อมกับกล่าวคำอาฆาตว่าจะตามมาฟันให้ตาย ให้ระวังตัวให้ดี

ก่อนเกิดเหตุลูกชายกำลังให้น้ำไก่ชนเพื่อจะฝึกซ้อมไก่ภายสังเวียนที่อยู่หลังบ้าน โดยไม่ทันระวังตัว นายวุฒิ น้าของผู้ตาย ได้เข้ามาด้านหลังจากนั้นก็ใช้มีดพร้าฟันเข้าที่ท้ายทอยนายเทพพิทักษ์ ก่อนที่จะหลบไปทางด้านทิศตะวันตกของหมู่บ้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชุดปกครองของหมู่บ้านโคกใหญ่ได้ติดตามตัวนายวุฒิชัย ผู้ก่อเหตุ จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้ โดยพบร่องรอยของการเผาถุงย่ามที่ทำจากถุงปุ๋ยทางท้ายหมู่บ้าน แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ ไม่ยอมบอกที่ซ่อนมีดของกลางซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำอย่างหนัก

หลังจากการชันสูตรศพผู้ตายอย่างละเอียด ทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ทางญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ส่วนตัวผู้ก่อเหตุได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป