สำนักข่าว CNBC รายงานว่า สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าธุรกิจสตาร์บัคส์ฯในขณะนี้กำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังสาขาทั่วโลกได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง แม้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม
เควิน จอห์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์ กล่าวว่า การที่ธุรกิจของสตาร์บัคส์กำลังกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง เป็นผลมาจากกลยุทธ์การฟื้นฟูทางธุรกิจ ซึ่งทางสตาร์บัคส์ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต หลังสาขาทั่วโลก 97% กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่ายอดขายของสาขาทั่วโลกอาจลดลง 12-17% ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวในเดือน ธ.ค.นี้
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สตารบัคส์ ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 (29 มี.ค.-28 มิ.ย.) โดยมีรายได้อยู่ที่ 4.2 พันล้านดอลลาร์ ลดลงไปมากถึง 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังยอดขายทั่วโลกลดลงไปมากถึง 40% ซึ่งเป็นผลมาจากการปิดสาขาจากมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้สตาร์บัคส์สามารถให้บริการได้เฉพาะแบบนำกลับบ้าน และเดลิเวอร์รี่ เท่านั้น
ทั้งนี้ แม้ทั่วโลกจะเผชิญกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่สตาร์บัคส์ เตรียมที่จะขยายสาขาทั่วโลกอีก 130 แห่ง ในไตรมาสที่ 4/20 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สตาร์บัคส์ เตรียมที่จะปิดสาขา 400 แห่งทั่วโลกในปี 21 โดยจะหันไปให้ความสนใจกับการให้บริการเดลิเวอร์รี่ผ่านทางแอปพลิเคชั่น และบริการไดร์ฟทรู เพิ่มขึ้นในปีนี้