“พิพัฒน์” สั่งขยายเวลาลงทะเบียนบริษัทนำเที่ยวฯ ร่วมแพ็คเกจ “กำลังใจ” หลังไม่ถึงเป้าได้แค่ 986 บริษัทจากทั้งประเทศ 1.2 หมื่นบริษัท อสม.ร้องเรียนโปรแกรมน้อย-ไม่ครอบคลุม เร่งหารือแบงก์รัฐขอซอฟท์โลนให้เอเย่นต์มีกระแสเงินสดใช้จ่าย ด้าน ททท.ยันตรวจสอบเข้มงวด-เปิดรับร้องเรียน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เนื่องจากจำนวนบริษัทนำเที่ยวที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “กำลังใจ” สนับสนุนการท่องเที่ยวโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อแทนคำขอบคุณ อสม. อสส. และ รพสต. จำนวน 1.2 ล้านคน มีเพียง 986 บริษัทจากจำนวนบริษัทนำเที่ยวภายในประเทศที่จดทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยวกว่า 12,000 บริษัท หลังการหารือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จึงตัดสินใจให้มีคำสั่งขยายระยะเวลาลงทะเบียนจากสิ้นสุด 25 กรกฎาคมไปเป็น 5 สิงหาคม 2563 นี้
“เนื่องจากมีบริษัทนำเที่ยวหลายแห่งที่ลงทะเบียนแล้วไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินของ สทท. เนื่องจากแจ้งรายละเอียดไม่ครบหรือไม่ชัดเจนและมีหลายบริษัทที่ติดตามข้อมูลลงทะเบียนไม่ทันเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งมีการร้องเรียนผ่านการท่องเที่ยวและกีฬาประจำจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องว่าโปรแกรมฯ ท่องเที่ยวที่มีอยู่ขณะนี้ยังไม่ครอบคลุมและไม่หลากหลายซึ่งไม่สอดคล้องกับคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่เน้นย้ำให้กระทรวงฯ กวดขันและดูแลให้มีบริษัทนำเที่ยวครอบคลุมทัุกจังหวัดจึงจำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาการลงทะเบียนออกไปอีก”
ในรายละเอียดแต่ละบริษัทนำเที่ยวที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการสามารถนำเสนอโปรแกรมนำเที่ยวได้มากกว่า 15 โปรแกรม โดยล่าสุดมีรายงานจำนวนรายการโปรแกรมท่องเที่ยวที่เสนอเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 1,562 รายการ ผ่านแล้วทั้งหมด 236 รายการ ส่วนที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจาก สทท. นอกจากนั้น ยังมีจำนวนผู้เข้าชมรายการโปรแกรมท่องเที่ยว 122,193 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่ผู้ประกอบการไม่เข้าร่วมโครงการว่าอาจเกี่ยวข้องกับการขาดกระแสเงินสดจากวิกฤตการณ์โควิด-19 นายพิพัฒน์ ระบุว่าได้หารือเบื้องต้นกับ ททท. และ สทท.แล้วถึงการพูดคุยกับธนาคารของรัฐเรื่องการปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การลงทะเบียน แต่รายละเอียดยังไม่แล้วเสร็จ แต่ยืนยันว่าไม่สามารถสั่งจ่ายล่วงหน้า 50% ให้กับผู้ประกอบการก่อนได้และยังไม่มีแนวทางในการเยียวยาอื่นๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยืนยันว่า หลังจากการเดินทางตามโปรแกรมท่องเที่ยวและส่งเอกสารครบถ้วนเรียบร้อย ผู้ประกอบการบริษัทนำเที่ยวจะได้รับเงินจาก ททท.ผ่านธนาคารกรุงไทยภายใน 7 วัน ขอเพียงแค่ดำเนินตามขั้นตอนอย่างถูกต้องเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการสแกนคิวอาร์โค้ดของผู้ร่วมเดินทางตลอดการเดินทาง
ส่วนปัญหาขาดอุปกรณ์สื่อสารประเภทสมาร์ทโฟนของกลุ่ม อสม. แล้ว ททท.เตรียมประสานงานกับ กสทช. หารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อหาทางออกว่ามีวิธีการใดบ้างเพื่อให้กลุ่ม อสม. อสส. และ รพสต.จำนวน 1.2 ล้านคนได้เดินทางทุกคน โดยยืนยันวันเริ่มเดินทาง 31 กรกฏาคมนี้ตามเดิม แม้จะมีการเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมถึง 5 สิงหาคม
นอกจากนั้น ยืนยันว่าโครงการนี้จะมีการติดตามและตรวจสอบอย่างเข้มข้นด้วยเป็นงบประมาณจาก พรบ.เงินกู้ฯ ที่มีกระทรวงการคลังคุมเข้มในเบื้องต้นแล้ว ททท.ยังมีการควบคุมการเบิกจ่ายอย่างเข้มข้นทุกกระบวนการ พร้อมเปิดให้ อสม. อสส. และ รพสต. ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถร้องเรียนมาพร้อมหลักฐานหากพบปัญหาขณะเข้าร่วมโครงการหรือพบความผิดปกติ