นายบุญลือ ประเสริฐโสภา คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฏร อาศัยอำนาจตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฏร์ เมื่อ 24 มิ.ย.63
โดยมีมติแต่งตั้ง อนุกรรมาธิการ ศึกษาพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 เพื่อพิจารณาและศึกษาปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นจาก พรบ.มวย 2542 รวมถึงศึกษาแนวทางส่งเสริม สนับสนุน และอนุรักษ์ เพื่อเผยแพร่กีฬามวย ตลอดจนคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับกีฬามวยให้ดีขึ้น จึงมีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ และแต่งตั้ง คณะอนุกรรมาธิการขึ้น
ล่าสุดแต่งตั้งอนุกรรมาธิการ ดังนี้
“เสี่ยโต้ง” นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เป็นประธานอนุกรรมาธิการ และคณะดังนี้ นายเอกการ ชื่อทรงธรรม,ร.ต.ประทาน วรมานิน,นายประเสริฐ หอธรรมรัตน์,นายรังสฤษฏ์ อินทรโม,นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส,นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล,นายสามารถ มะลูลีม,นายสุทธินันท์ ฤทธิบริรักษ์,นายสุรพล ทิพย์เสนา
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า วันศุกร์ที่ 7 ส.ค.63 เวลา 10.00 น. ที่ อาคารรัฐสภา จะมีการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ พร้อมเชิญ วิบูลย์ จำปาเงิน ผอ.สำนักคณะกรรมการกีฬามวย รวมทั้ง บุคคลในวงการมวย โดยเฉพาะนายสนามมวย ,โปรโมเตอร์ ,หัวหน้าคณะ และ ตัวแทนนักมวย เพื่อหารือและศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนนำข้อมูลมาแก้ไข ปรับปรุง พรบ.มวย ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
นายประเสริฐ หอธรรมรัตน์ หนึ่งในคณะอนุกรรมาธิการ เผยว่า “เดิมที พรบ.มวย มีความพยายามจะแก้ไขมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง และที่ผ่านมารัฐบาลพยายามจะผลักดัน แต่สุดท้ายตกไป เพราะการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล การออก พรบ.มวยที่ผ่านมา แม้จะพยายามอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ควบคุมคุ้มครองบุคคลในวงการมวยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตลอดช่วงสิบปีหลังที่ผ่านมา มวย นั้นกลายเป็นกีฬาที่นิยมแพร่หลายไปไกลในต่างประเทศ อีกทั้งในประเทศเองก็มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงธุรกิจขึ้นมาก จน พรบ.มวยนั้นล้าสมัยไปแล้ว จนถึงกับมีการร้องเรียนของคนวงการมวยที่ว่า นอกจาก พรบ.มวย จะไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว ยังเป็นตัวถ่วงด้วยซ้ำไป”
นายประเสริฐ สื่ออาวุโสซึ่งเป็นประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์กีฬามวย กล่าวอีกว่า “ปัจจุบัน พรบ.มวย เมื่อออกมาใช้ ก็กลายเป็นเครื่องมือของผู้บริหารระดับสูงไป บางส่วนนำไปใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ ทั้งที่เงินช่วยเหลืออย่างแท้จริงนั้น กลับไม่ถึงมือของคนวงการมวยด้วยซ้ำไป และเนื่องจาก มวยกลายเป็นธุรกิจเติบโตในต่างประเทศแพร่หลาย
ทั้งในยุโรป อเมริกา จีน และ ญี่ปุ่น แต่การจำกัดความคำว่า มวยไทย กลับผิดเพี้ยนและถูกนำไปดัดแปลงจนชาวต่างชาติและเยาวชนไทย สับสนและไม่เข้าใจว่า อะไรคือมวยไทยที่แท้จริง การที่เสี่ยโต้ง (นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ) ได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการพร้อมผู้ทรงคุณวุฒิ ถือเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะได้ศึกษาข้อเท็จจริงและนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหา ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อวงการมวยได้อย่างดี”