นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด วอน บขส.ยืดเวลารถหมดอายุ 2 ปี ชี้โควิด-19 ทำธุรกิจชงัก – สยามธุรกิจ

นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด ยื่นหนังสือขอยืดเวลารถตู้หมดอายุอีก 2 ปี ต่อ บขส. หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ไม่สามารถเปลี่ยนรถตู้ที่หมดอายุเป็นรถมินิบัสได้ตามกำหนดของภาครัฐ

นายปรีดา มากมูลผล นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด (สตจว.) พร้อมด้วย นายบุญส่ง ศรีสกุล รองนายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด และ นายชูชาติ เนื้อเย็น กรรมการที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด เดินทางเข้าพบ นายมาโนช สายชูโต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจเดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และ นายกุณฑล ฉายศิริ ผู้อำนวยการกองจัดการเดินรถ บขส. เพื่อหารือ และยื่นหนังสือขอให้ บขส. ขยายเวลาให้รถตู้หมดอายุที่เดินรถในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้เดินรถต่อไปก่อนอีก 2 ปี หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงไม่สามารถเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสได้ตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนด เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน อีกทั้งการเยียวยาของภาครัฐไม่สามารถเข้าถึงได้จริง จึงทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่สามารถดำเนินการเปลี่ยนรถตามที่กำหนดได้

นายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด เปิดเผยว่า ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรถตู้มากนานกว่า 40 ปี ได้เล็งเห็นความสำคัญถึงผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถตู้ต่างจังหวัดที่รถตู้หมดอายุไม่สามารถเดินรถในเส้นทางได้ จึงได้ขอความอนุเคราะห์ให้ทาง บขส. ช่วยขยายเวลาให้รถตู้ดังกล่าวเดินรถในทางต่อได้อีก 2 ปี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสตามที่ภาครัฐกำหนด

นอกจากนี้ การช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐที่ให้กู้ยืมเงินเพื่อนำมาต่อยอดในการทำธุรกิจนั้น ก็ไม่สามารถเข้าถึง เนื่องจากติดเครดิตบูโร รวมถึงเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดค่อนข้างเข้าถึงได้ยาก จึงทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนได้ตามกำหนด

ซึ่งสอดคล้องกับทาง นายชูชาติ เนื้อเย็น กรรมการที่ปรึกษา สตจว. ระบุว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ เพราะทางกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐได้โปรดเห็นใจ และขยายเวลาให้รถตู้ดังกล่าวออกไปก่อน และเมื่อสภาวะคลี่คลายเป็นปกติ ก็จะปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดต่อไป

ทั้งนี้ ทางสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด จึงขอความอนุเคราะห์ให้ บขส. ช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจากับทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบก อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ จะติดตามความคืบหน้า และยื่นหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม อีกครั้งในเร็วๆ นี้