วันที่ 02 ส.ค. 2563 เวลา 10:30 น.
สิวจากแมสก์ ‘Maskne’ ปัญหายอดฮิตที่หนุ่มๆ สาวๆ เป็นกันมากที่สุดจนยกให้เป็นสิวแรงแห่งยุค New Normal แพทย์เผยวิธีสังเกตและการป้องกัน
สิวแรงแห่งยุค New Normal ตอนนี้คงหนีไม่พ้น ‘Maskne’ หรือสิวจากแมสก์ ปัญหายอดฮิตที่หนุ่มๆ สาวๆ เป็นกันมากที่สุด มาแรงแซงปัญหาเดิมอย่างสิวฮอร์โมน สิวเครื่องสำอาง และยิ่งเข้าสู่ฤดูฝนด้วยแล้ว ความอับชื้นเยอะขึ้น สิวจากแมสก์ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย พ.ญ. กตมน จิรวีรพัชธ์ แพทย์ผิวหนังและความงามด้านผิวพรรณ จึงขอแนะเคล็ดลับวิธีลดปัญหาสิวที่เกิดจากการใส่แมสก์ในช่วงนี้ เพื่อให้หนุ่มสาวหน้าใสห่างไกลสิว
แพทย์หญิงกตมน จิรวีรพัชธ์ แพทย์ผิวหนังและความงามด้านผิวพรรณ เจ้าของกตมน คลินิกเวชกรรม (Katamon Clinic) เปิดเผยว่า สมัยก่อนสาเหตุแรกๆ ของคนที่มีปัญหาสิวกวนใจจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การแพ้เครื่องสำอาง การแพ้น้ำ หรือปัญหาจากฝุ่นละออง PM 2.5 แต่ปัจจุบันต้นตอสาเหตุของการเกิดสิวที่มาแรงแซงทางโค้งคงหนีไม่พ้น “Maskne” คำที่ใช้เรียกอาการข้างเคียงจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือแมสก์เพราะในยุคนิวนอร์มัลนี้เราทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือแมสก์เป็นประจำทุกวัน
วิธีสังเกต “Maskne”
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่าเราเป็นสิวจากแมสก์หรือไม่นั้น คือใส่แมสก์ไปสักระยะจะมีสิวขึ้นบริเวณผิวหนังด้านในที่ถูกแมสก์ปิดทับหรือบางรายอาจมีอาการแพ้แมสก์ร่วมด้วย คือ คันบริเวณใบหน้า รอบใบหู มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นเป็นผดผื่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะพบสิวที่เกิดจากใส่แมสก์มากยิ่งขึ้น เพราะความชื้นในอากาศ ทำให้เกิดเหงื่อและการสะสมของแบคทีเรียมากกว่าปกติ และถ้าหากแมสก์โดนน้ำฝนก็จะทำให้แบคทีเรียเติบโตได้เร็วขึ้น
วิธีการป้องกันไม่ให้เกิด “Maskne”
เริ่มจาก “สำรวจผิว” ลองสำรวจผิวหน้าของเราเองก่อนว่าเคยแพ้ประเภทของผ้าอะไรหรือไม่อาจจะสังเกตจากสวมเสื้อผ้าเช่นถ้าใส่ผ้าฝ้ายแล้วมีอาการคันตามตัวใส่ไม่สบายก็ควรหลีกเลี่ยงหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าฝ้ายแนะนำให้เลือกผ้านาโนหรือผ้าที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์จะระบายอากาศได้ดีกว่าหรือบางคนแพ้ยางยืดคล้องหูก็ควรเปลี่ยนสายคล้องหูเป็นผ้าแทนเป็นต้น
“ขนาดของแมสก์” ควรเลือกให้พอดีกับใบหน้า ไม่หลวมหรือแน่นจนเกินไป วิธีสังเกตง่ายๆ คือ เมื่อถอดแมสก์ออกมาใบหน้า ต้องไม่เป็นรอยกดทับของยางรัด เพราะถ้าหากเลือกแมสก์ที่มีขนาดเล็กหรือแน่นจนเกินไป จะทำให้หายใจไม่สะดวกและผิวของผ้าจะเสียดสีกับผิวบนใบหน้า ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย
นอกจากนี้ ควร “เปลี่ยนแมสก์ทุกวัน” การสวมหน้ากากอนามัยควรเปลี่ยนทุกวันเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานหรือหากใช้หน้ากากผ้าควรซักทำความสะอาดทุกวันด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาซักผ้าทั่วไปที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ง่ายจากนั้นนำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
อีกตัวเลือกง่ายๆ ที่ช่วยได้มากคือ “ลดการแต่งหน้า” เพราะการแต่งหน้าจะเป็นเสมือนการเพิ่มสิ่งปกคลุมบนใบหน้าอีกหนึ่งชั้น ทำให้ผิวหายใจลำบากมากยิ่งขึ้น และเมื่อเครื่องสำอางเจอกับความอับชื้นจากการใส่แมสก์ ก็ง่ายต่อการเกิดสิวได้
สุดท้ายควร “ทำความสะอาด” เมื่อถอดแมสก์ออกควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าทันที เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่สะสมบนใบหน้าระหว่างวัน โดยทำความสะอาดผิวหน้าทุกครั้งด้วยโฟมล้างหน้า แล้วตามด้วยโทนเนอร์เช็ดย้อนขึ้นตามรูขุมขนอีกครั้ง เพื่อเป็นการทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
แพทย์หญิงกตมน แนะนำต่อว่า “ถ้าใครที่มีอาการ “Maskne” หรือเป็นสิวจากแมสก์แล้ว และคาดว่าจะมีอาการลุกลาม ควรรีบมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวและแนวทางการรักษา การป้องกันที่ถูกต้อง ไม่ควรใช้วิธีการกดสิวด้วยตัวเอง เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ ที่สำคัญคือจะทำให้ผิวหน้าเสียหาย เกิดเป็นรอยแผลเป็นบนใบหน้า และยากต่อการรักษา”