เรียน คุณบี บางปะกง ที่นับถือ เมื่อกล่าวถึงฟุตบอลอาชีพย่อมจะทราบกันดีแล้วว่านี่คือการจัดการแข่งขันกีฬาที่มีมิติของธุรกิจและองค์ประกอบต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องหลากหลาย
สำหรับบอลลีกบ้านเราโดยเฉพาะในระดับรากหญ้าหรือ ลีกภูมิภาค ในอดีต ที่วันนี้แปรสภาพมาเป็นการแข่งขันใน ระดับ T3 ถือได้ว่ายังไม่ค่อยจะเข้ารูปเข้ารอยของการเป็นอาชีพที่สมบูรณ์มากนัก
และเมื่อกล่าวถึงประเด็นนี้ จึงมีโจทย์หรือคำถาม ที่ทำให้คนในวงการลูกหนังโดยเฉพาะแฟนพันธุ์แท้ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศต้องแสวงหาคำตอบว่า “ทำไม และใคร” ก่อให้เกิดมูลเหตุที่ไม่สามารถยกระดับและขับเคลื่อนการบริหารจัดการเพื่อนำไปสู่การพัฒนาดังวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการก่อเกิดดังที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงพัฒนาการหรือปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่บอลลีกในระดับล่างอย่าง T3 ด้วยแล้วที่วันนี้ผู้เกี่ยวข้องกับการทำทีมตลอดจนนักเตะ และผู้เกี่ยวข้องยังมองไม่เห็นทิศทางอนาคตที่ชัดเจนว่า “จะไปต่อหรือขอพัก”
ความหวังลมๆแล้งๆอันเนื่องมาจากกระแสข่าวที่สื่อมวลชนรายงานผลจากการให้ข่าวของผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการแข่งขันรายวันดูเหมือนว่าโอกาสที่จะไปต่ออาจจะเป็นเพียงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ว่าได้
คุณบีและแฟนลูกหนังคงประจักษ์แล้วว่าการทำทีมในบอลลีกหรือบอลอาชีพนั้น ผู้เข้ามาเกี่ยวข้องจะมีเพียงหัวใจที่อุทิศเพื่อวงการลูกหนังอย่างเดียวไม่พอ
เงินทุนหรือกระสุนดินดำ สำหรับการบริหารจัดการจึงเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญและจำเป็น
ยิ่งวันนี้สังคมต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด-19ด้วย แล้ว ผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่และจากพิษโควิดยิ่งส่งผลให้ผู้ทำทีมต้องกลับมาตั้งหลัก และคิดหนักว่าจะเดินหน้าหรือร้องเพลงปลอบใจว่าถอยดีกว่า
ต่อปัญหาที่กระทบต่อบอลลีก ล่าสุด กกท.ซึ่งมีบทบาทหน้าที่โดยตรงต่อการขับเคลื่อนการจัดการหรือพัฒนากีฬาชาติ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ในฐานะผู้นำองค์กรหรือนายใหญ่ย่านหัวหมาก
ได้ออกมาดับกระแสว่าบอลลีกไทยในฤดูกาล 2020 จะต้องไปต่อด้วยการให้ข่าวว่า กกท.พร้อมที่จะเข้ามาโอบอุ้มให้บอลลีกเดินหน้าจนกว่าจะจบการแข่งขันโดยการสนับสนุนงบประมาณมาเจือจุนสำหรับการจัดการแข่งขัน ซึ่งประเด็นนี้ไม่เกี่ยวกับงบประมาณการทำทีมของแต่ละสโมสร
ด้วยปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการผู้เกี่ยวข้องในลีกภูมิภาค จึงเฝ้ารอว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯจะสามารถจัดสรรงบประมาณจากผู้สนับสนุนมาช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
ที่สำคัญมีเสียงสะท้อนกลับมาว่าการถือภาษิตที่ว่า “ช้าๆได้พร้าเล่มงาม” คงจะเหมาะกับสภาวการณ์ที่ลีกล่างกำลังเผชิญอยู่ ณ เวลานี้
ความหวังและโอกาสหากมาไม่ถึงเชื่อว่าจำเป็นอยู่เองที่หลายทีมในลีก 3 อาจจะกล่าวว่า “ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า” หรือผู้เกี่ยวข้องจะปล่อยให้เป็นเยี่ยงนี้
ฝากโจทย์ให้คุณบีในฐานะสื่อที่คร่ำหวอดกับวงการลูกหนังบ้านเรามาอย่างยาวนาน เป็นกระบอกเสียงเพื่อชาวรากหญ้าด้วยครับ
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร
ooooooo
ปัญหาบอลลีกไทยในยามนี้ มันเป็นโจทย์ยากแล้วล่ะครับ
ถึงแม้บิ๊กหัวหมาก จะออกโรงช่วยเหลือการแข่งขันให้จัดกันไปได้ตลอดรอดฝั่งก็จริงอยู่
แต่กับเงินสนับสนุนทีมที่จะช่วยต่อชีวิตให้กับสโมสรมีลมหายใจต่อไปนี่สิ
ถามว่าสมาคมลูกหนังจะเอาจากส่วนไหน
อยากรู้จริงๆเลย!!!
บี บางปะกง