วันจันทร์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 06.01 น.
“ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพอังกฤษ มาครองได้สำเร็จ หลังเอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 2-1 ที่สนาม นิว เวมบลีย์ นับเป็นแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 14 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ
เกมนี้ “สิงห์บลูส์” ได้ประตูขึ้นนำก่อนจาก คริสเตียนพูลิซิซ ตั้งแต่นาทีที่ 5 ทว่า ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง มาเหมาคนเดียว 2 ประตู จากจุดโทษในนาทีที่ 28 และ 67 ทำให้ “ไอ้ปืนใหญ่” แซงเอาชนะ คว้าแชมป์มาเอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ พร้อมการันตีโควตาไปเล่นในศึกยูโรป้าลีก ฤดูกาลหน้านอกจากนี้ยังนับเป็นการกลับมาทะลุเข้าถึงนัดชิงครั้งแรกของอาร์เซนอล นับตั้งแต่ปี 2017 หรือย้อนไปถึงสมัยที่อาร์เซน เวนเกอร์ ยังคุมทีมอยู่
สำหรับ ทำเนียบแชมป์เอฟเอ คัพ ทั้ง 14 สมัยของ อาร์เซนอล มีดังนี้ 1929-30, 1935-36, 1949-50, 1970-71, 1978-79, 1992-93, 1997-98, 2001-02, 2002-03, 2004-05, 2013-14, 2014-15, 2016-17, 2019-20
l “อาร์เตต้า” ยกลูกทีมใจสู้
ภายหลังเกม มิเกล อาร์เตต้า ที่เป็นกุนซือคนแรกของ อาร์เซนอล ที่คว้าแชมป์รายการหลักได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามารับหน้าที่คุมทีม นับตั้งแต่ จอร์จ เกรแฮม ทำได้ในฤดูกาล 1986-87 เผยว่าเขามีความสุขมากๆ กับการเป็นแชมป์ในครั้งนี้
“มันเป็นการเริ่มต้นที่ยากเมื่อเราเสียประตูตั้งแต่ต้นแต่ผมรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับผู้เล่นชุดนี้ นั้นก็คือเราไม่ยอมแพ้บางทีเราเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมหลังจากนั้น 30 นาที และผมก็ภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของผู้เล่นและสโมสรนี้”
“สำหรับผม โดยส่วนตัว 6 เดือนที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่หนักมาก มีหลายสิ่งเกิดขึ้นในชีวิตของพวกเรา แต่ผมมีเพียงภารกิจเดียวเมื่อครั้งมาที่นี่คือทำให้นักเตะและสต๊าฟโค้ชเชื่อมั่นว่าเราสามารถทำมันได้ เราเปลี่ยนพลังงานและความคิดของเรา และเพียงแค่ได้เห็นพวกเขาในห้องแต่งตัวทุกคนอยู่ร่วมกันและกำลังมีความสุข มันทำให้ผมภูมิใจมาก มันเป็นผลจากที่เราประสบความสำเร็จร่วมกัน คว้าแชมป์ร่วมกัน”
l ลุ้น “โอบาเมยอง” ต่อสัญญาปืน
ขณะเดียวกัน อาร์เตต้า ยังหวังว่า โอบาเมยอง ฮีโร่ของทีมในเกมนี้ จะอยู่กับสโมสรต่อไป หลังสัญญาของนักเตะกำลังจะหมดลงในปีหน้า
“เขารู้สิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับเขา ทีมที่ผมต้องการสร้าง คือการมีเขาเป็นศูนย์กลาง ผมคิดว่าเขาต้องการอยู่ต่อและมันเกี่ยวกับการทำข้อตกลง แต่ผมคิดว่าช่วงเวลานี้จะช่วยเขาตระหนักและเชื่อว่าเราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง และเขาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของเรา เขาเป็นที่รักของทุกๆ คนที่สโมสร ผมหวังว่าเราจะมีข่าวดีในสัปดาห์นี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการพูดคุยระหว่างผมกับเขา ว่าเขามองอนาคตของตัวเองอย่างไร “
l “แลมพ์” รับสิงห์เล่นไม่ดีจนพ่าย
ทางด้าน แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือ “สิงห์บลูส์” ยอมรับเกมนี้ลูกทีมของเขาเล่นกันไม่ดี ทั้งที่มีโอกาสช่วงต้นเกมแต่กดอาร์เซนอลไม่อยู่ก่อนจะพ่ายชวดแชมป์ไปแบบน่าเสียดาย
“เราออกสตาร์ทเกมกันได้ดีในช่วง 15 นาทีแรกเราทำได้แค่ต้องตำหนิตัวเองกับฟอร์มการเล่นในบางช่วง เราชะล่าใจกันเกินไป เราใช้เวลากับบอลเหมือนคนที่เดินเล่น สุดท้ายเราปล่อยให้พวกเขากลับสู่เกม มันยากมากที่จะกลับสู่เกมหลังจากนั้น มีอะไรมากมายกับพวกเราในวันนี้”
“ทั้งหมดที่ผมทำได้จากข้างสนามคือ ตะโกนสั่งลูกทีม มีองค์ประกอบในเกมที่เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อแก้มันมาตลอดทั้งปี แต่มันก็ยังคงอยู่ในกลุ่มของพวกเรา วันนี้เราเล่นกันช้ามาก เราทำให้ตัวเองตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เราเล่นกันดีไม่พอจะเป็นผู้ชนะในนัดชิงฯ”
l จวกยับผู้ตัดสินเป่าลำเอียง
แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพเกมนี้ โดนวิจารณ์อย่างหนักจากแฟนบอล “สิงโตน้ำเงินคราม”หลังให้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ มาเตโอ โควาซิช กองกลางคนสำคัญ ออกจากสนาม ซ้ำเหตุการณ์เดิมเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่เขาเคยไล่ วิคเตอร์ โมเซส และเชลซี ก็แพ้อาร์เซนอล รายการและสกอร์เดียวกัน 2-1
ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของ เทย์เลอร์ ค้านสายตาสำหรับแฟนสิงห์บลูส์ ที่มองว่าจังหวะเข้าแย่งบอลของ โควาซิชไม่ได้เป็นการเข้าสกัดที่รุนแรง และ ชาก้า ดีดตัวเกินจริง หรือจะเป็นจังหวะให้จุดโทษกับ โอบาเมยอง ที่มองว่าให้ง่ายเกินไป แม้กระทั่งตอนที่ มาร์ติเนซ ออกมาตัดบอลที่เส้นเขตโทษ ที่มองว่าน่าจะเป็นการทำแฮนด์บอล
อย่างไรก็ตาม บีบีซี สื่อดังของเมืองผู้ดีก็นำจังหวะที่เป็นปัญหา มาวิเคราะห์และทำให้เห็นว่ามีความชัดเจนในทุกจังหวะที่ผู้ตัดสินทำหน้าที่แล้วเช่นกัน