เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
“พันธ์ยศ” ปัดเอี่ยวเเก๊งรถหรูยิงถล่มบ้านเสี่ยย่านสาย 2 รับเคยคุยธุรกิจ “อธิป” จริง แต่เรื่องเยอะจนไม่ได้ร่วมงานกัน แถมยังแจ้งความเอาผิด “อธิป” หลายข้อหา ยันให้ข้อมูล “หน้ากากผี” กับ ตร.หมดเเล้ว พร้อมให้ความร่วมมือตามกระะบวนการ กม.พิสูจน์ความบริสุทธิ์-หวังพ้นครหา
วันนี้ (3 ส.ค. 63) นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย-จีน กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 ส.ค. โดย สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนกระหน่ำยิงคู่อริมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดย่านถนนพุทธมณฑล สาย 2 เขตบางแค กทม. โดยเช่ารถหรู 3 คันมาก่อเหตุเเละหนึ่งในผู้ต้องหาคือมีนายอธิป หรือวิน ขวัญบุญ ร่วมด้วย เเละนายอธิปเคยถูก สน.บางขุนเทียน จับกุมไปก่อนหน้านี้ในข้อหากักตุนหน้ากากอนามัย และคดีฉ้อโกงเงินค่าหน้ากากอนามัย โดยล่าสุดมีการโยงว่านายอธิปเกี่ยวข้องกับตนนั้น ต้องยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้อง เเละพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจทุกกรณี
“ก่อนหน้านี้ผมกับนายอธิปเป็นเพียงคนที่รู้จักกันเพื่อติดต่อธุรกิจ เนื่องจากนายอธิปต้องการที่จะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไวรัสโควิด-19 มาขายให้เเต่มีปัญหาหลายด้าน ผมจึงไม่ได้ทำธุรกิจกับนายอธิปอีก ดังนั้นเรื่องราวล่าสุดที่นายอธิปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ผมไม่ได้มีส่วนรู้เห็น เพราะไม่ได้พูดคุยกันมานานแล้ว เเละที่ผ่านมาผมก็ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายอธิป รวมทั้งแก๊งหน้ากากผี ที่ สน.หนองแขม เเละ สน.โชคชัยไปแล้วในหลายข้อหา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่ตำรวจกำลังดำเนินการ” นายพันธ์ยศระบุ
นายพันธ์ยศกล่าวต่อไปอีกว่า ขอย้ำว่าตนปฏิบ้ติตัวตามกฎหมายเเละร่วมมือกับตำรวจทุกกรณี เช่น ตนไปรับทราบข้อกล่าวหาจงใจทำให้ราคาต่ำเกินสมควรหรือสูงเกินสมควร หรือทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคาหน้ากากอนามัย และเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งปริมาณสถานที่เก็บ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย แผนการผลิต และกระบวนการผลิต และวิธีการจำหน่ายสินค้าหรือควบคุมต่อพนักงาน โดยตนต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมเเละยังให้ข้อมูลบางด้านกับตำรวจเกี่ยวกับเเก๊งหน้ากากผีไปเเล้วว่ามีใครบ้างที่น่าจะเกี่ยวข้องเเละมีพฤติกรรมเช่นใดในห้วงเวลาที่ผ่านมา
“ขอให้สังคมพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ อย่าด่วนสรุปเเละอย่าเพิ่งวิจารณ์โดยไม่มีข้อมูล ยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่เกี่ยวข้องอย่างสิ้นเชิงเเละพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการขยายผลในเหตุการณ์ล่าสุด ขอพิสูจน์ข้อกล่าวหาด้วยความจริงใจ เพราะหากพ้นข้อครหา ผมตั้งใจว่าจะทำงานการเมืองอีกครั้งในสนาม กทม.เพื่อขอเป็นทางเลือกใหม่ให้คน กทม.ได้นำไปประกอบการตัดสินใจ” นายพันธ์ยศกล่าว