กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กกท. จับมือภาครัฐและเอกชน จัดโครงการวิ่งนำร่อง ”RUNNING ZONE CHALLENGE วิ่งปลอดภัยไร้โควิด” ชวนประชาชนร่วมวิ่งวิถีใหม่ ”นิวนอร์มัล” ที่สนามฟุตบอล 1 ภายใน กกท. หัวหมาก คาดประชาชนเข้าร่วมตลอดการจัดงาน 1 เดือน ระหว่าง 18 ส.ค.-13 ก.ย. 63 ด้าน รมว.กีฬา แย้มข่าวดี หากโควิด-19 ในไทยยังสามารถควบคุมได้ดี สิ้นเดือน ส.ค. นี้ อาจเสนอให้ทุกชนิดกีฬาจัดแข่งขันแบบมีผู้ชมได้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าว โครงการจัดกิจกรรมวิ่งปลอดภัยไร้โควิด-19 ภายใต้ชื่อโครงการ ”RUNNING ZONE CHALLENGE วิ่งปลอดภัยไร้โควิด” ที่ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา
งานนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด และผู้แทนจากสมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย เข้าร่วมในงานแถลงข่าว
โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการนำร่องการจัดกิจกรรมวิ่ง ภายหลังรัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินการภายใต้ชื่อโครงการ ”วิ่งปลอดภัยไร้โควิด” จัดเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง 1 เดือน (30 วัน) โดยใช้สนามฟุตบอล 1 ภายในกกท. หัวหมาก เป็นสนามหลักของกิจกรรม พร้อมจัดระเบียบให้มีการวิ่งภายใต้กติกาที่ถูกกำหนดโดย ศบค.
สำหรับการจัดกิจกรรมจะมีการจัดการวิ่งเป็นรอบ รอบละไม่เกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที จำกัดจำนวนนักวิ่งและทีมงานไม่เกิน 300 คน ขณะที่ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนจะต้องลงทะเบียน ”ไทยชนะ” และฝ่ายจัดงาน พร้อมรับริสแบนด์ เพื่อให้ทีมงานตรวจสอบประวัติและติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดระยะเวลาโครงการ ซึ่งรูปแบบของกิจกรรมจะเป็นการวิ่งเพื่อแข่งขันในระยะทางของตัวเอง คือ 3 กม., 5 กม., 7 กม. และ 10 กม. โดยนักวิ่งจะได้รับของที่ระลึก อาทิ เสื้อยืด, หน้ากาก ฯลฯ หากทำได้ตามเป้าหมายที่นักวิ่งสมัครร่วมกิจกรรม สามารถดูรายละเอียดและสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.วิ่งปลอดภัยไร้โควิด.com
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประกาศปลดล็อกกีฬาเกือบจะหมดทุกชนิดแล้ว ในส่วนของการวิ่งถือเป็นกิจกรรมกีฬาที่สำคัญ เพราะได้รับความนิยมสูงมาก โดยในบ้านเรามีคนเลือกออกกำลังโดยการวิ่งเพื่อสุขภาพกันเยอะ เหตุผลก็เพราะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายที่ประหยัด ง่าย และสะดวกที่สุด ดังนั้นอาจจะมีเรื่องการออกกำหนดกฎเกณฑ์ที่ละเอียดกว่ากีฬาอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามหลักปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัย
”เวลานี้ถือว่าสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงมอบนโยบายเร่งด่วนให้ผู้ว่าการ กกท. รีบไปดำเนินการจัดโครงการนำร่องในรูปแบบต่างๆ ให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยกิจกรรมแรกที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ก็คือโครงการ ”THAILAND STRONG” เป็นกิจกรรมในรูปแบบใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง ส่งเสริมการออกกำลังง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน และต่อเนื่องด้วยกิจกรรมนี้ ”วิ่งปลอดภัยไร้โควิด” หรือ ”RUNIING ZONE CHALLENGE” ก็จะเน้นไปที่รณรงค์ให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพ ออกกำลังกายกันในสถานที่สาธารณะ ภายใต้การปฏิบัติตัวในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ หรือ นิวนอร์มัล”
รมว.กีฬาเผยอีกว่า ”หากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยควบคุมได้ดี ไม่มีปัญหาใดๆ ไปจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. นี้ มีโอกาสที่ตนจะเสนอให้ทุกชนิดกีฬาจัดการแข่งขันแบบมีคนดูได้ เช่นเดียวกับงานวิ่งก็จะสามารถมีคนจำนวนมากเข้าร่วมแข่งขัน และเข้าชมได้ แต่ทั้งหมดจะยังอยู่ภายใต้มาตรการอันเข้มงวด ของ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา”ฃ
ด้าน ดร.ก้องศักด เผยว่า โครงการนี้มีระยะเวลาของการจัดกิจกรรม 1 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.-13 ก.ย. 63 มีรูปแบบของการจัดงานคือการเนรมิตลู่วิ่งภายในสนามฟุตบอล 1 ของกกท. ให้เป็นสนามฝึกซ้อมและสนามแข่งขัน โดยเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่ และประชาชนทุกท่านสามารถเข้ามาร่วมวิ่งกันทุกวัน ฟรี โดยไม่ค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายใต้การควบคุมระยะห่างตามมาตรการของการจัดวิ่งภายใต้การแพร่ระบาด ที่ กกท. นำเสนอไปให้ทาง ศบค. ให้ความเห็นชอบ และอนุมัติให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกประกาศมาตรการต่างๆ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา
”ผมคาดว่าโครงการวิ่งปลอดภัยไร้โควิด หรือ RUNNING ZONE CHALLENGE จะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมตลอดทั้งงานถึง 10,000 คน และจะเป็นการช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงและปลอดภัยจากการเจ็บไข้ได้ป่วย และก็ถือเป็นการทดลองจัดการแข่งขัน จัดกิจกรรมการวิ่งนำร่องในรูปแบบและมาตรฐานใหม่ในยุคโควิด-19” ผู้ว่าการ กกท. กล่าวทิ้งท้าย
Add friend ที่ @Siamsport