เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-รอง ผบ.ตร.รุดสอบสวนเมียผู้ต้องหาปล้นทองที่บึงกาฬ เผยหลังปล้นเสร็จสองผัวเมียหอบทองหนีกบดานในขอนแก่น ก่อนฝ่ายชายถูกตำรวจยิงบาดเจ็บสาหัสเมื่อบ่ายวันนี้ข้าง รพ.กรุงเทพขอนแก่น ส่วนทองได้คืนเกือบทั้งหมด
จากกรณีมีคนร้ายก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างโลตัสสาขาจังหวัดบึงกาฬ และหนีมากบดานที่ จ.ขอนแก่น และเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ถูกตำรวจไล่กวดตามจับกุมบนถนนกัลปพฤกษ์ คนร้ายไม่ยอมจำนนน ชักปืนยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี แต่ถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลขอนแก่น ทราบชื่อคนร้ายรายนี้ภายหลังคือนายรังสรรค์ วิเศษดินทอง อายุ อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 38 ม.8 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา
ล่าสุด เวลา 16:30 น.วันเดียวกันนี้ พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. บินด่วนลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ 4 บริเวณข้างโรงพยาบาลกรุงเทพขอนแก่น ในที่เกิดเหตุพบคราบเลือดของคนร้ายกองอยู่บนฟุตบาทริมถนนกัลปพฤกษ์ ข้างกองเลือดพบอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. พร้อมทั้งพบกระเป๋าของคนร้าย ในกระเป๋าพบ สร้อยคอทองคำ 20 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ 66 เส้น
ต่อมา พล.ต.อ.สุชาติ ได้นำตัว น.ส. ศศิธร อุดมลาภ ผู้ต้องหาคนที่ 3 และเป็นภรรยา ของนายรังสรรค์ ผู้ต้องหาที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เข้าห้องเค้นสอบ พร้อมกับตรวจสอบของกลาง โดยเฉพาะทองรูปพรรณ ซึ่งทองคำที่ถูกชิงมานั้นเจ้าหน้าที่สามารถนำกลับมาได้เกือบทั้งหมด โดยมีเจ้าของจากร้านทองใน จ.ขอนแก่นร่วมตรวจสอบลักษณะทอง และน้ำหนักของทองคำ ในระหว่างรอเจ้าของร้านทองที่ถูกชิงทรัพย์เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น
พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ คือนายเฉลิมพงษ์ และ น.ส.ศศิธร ให้การว่า นายรังสรรค์ ผู้ต้องหาที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เป็นผู้บงการทั้งหมด โดยก่อนก่อเหตุ ทั้งสามได้ไปดูลาดเลา ที่ร้านทองในโลตัส จ.บึงกาฬและดูเส้นทางหลบหนี ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ในวันที่ 31 ก.ค. เวลา 19:00 น. และหลบหนีมาที่ จ.ขอนแก่น
ต่อมา นายเฉลิมพงษ์ถูกตำรวจ สภ.บึงกาฬจับกุม ส่วนนายรังสรรค์ และภรรยาหลบหนีมาที่ จ.ขอนแก่น ก่อนจะเกิดเหตุ ยิงเปิดทางตำรวจภูธรภาค4 จน ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ด้านพล.ต.ท. เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ4 เปิดเผยว่า นายรังสรรค์ และภรรยาได้ใช้บัตรประชาชนของผู้อื่น แสดงตัวก่อนเข้าพักที่หอพักแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น จึงทำให้ติดตามจับกุมไม่ง่าย หลังจากนี้จะดำเนินคดีกับห้องพักที่ไม่มีความรอบคอบในการตรวจสอบผู้เข้าพัก ว่าตรงกับบัตรประชาชนที่แสดงหรือไม่ ส่วน ผู้ต้องหาทั้ง3 คน ขณะนี้มีหมายจับจาก ศาล จ.บึงกาฬ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ แจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปในเวลากลางคืน หรือให้พ้นเพื่อการจับกุม โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดฯลฯ