“พิพัฒน์” ดันเอ็กซ์แพท 2 ล้านออกเที่ยวไทย หารือนายกฯ ขอลดอัตราค่าบริการท่องเที่ยวทั่วประเทศเท่า คนไทย หวังสะพัดกว่าหมื่นล้านบาท หนุนโมเมนตัมท่องเที่ยวในประเทศ คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในประเทศไทยหรือที่เรียกว่า “เอ็กซ์แพท” ในไทยมีจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน แต่ไม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ เนื่องจากมักถูกคิดค่าบริการมากกว่าคนไทยถึง 2 เท่า (double charge) กระทรวงฯ จึงมีแนวคิดจัดทำแพ็คเกจให้คนกลุ่มนี้ออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยมากขึ้น โดยเป็นการเดินทางในลักษณะเป็นครอบครัว
ให้บริษัทนำเที่ยวจัดกิจกรรมเป็นแพ็คเกจสำหรับทุกคนในครอบครัว แยกกันทำกิจกรรม อาทิ ผู้ชายออกไปทำกิจกรรมรวมกลุ่มอย่างตีกอล์ฟหรือกีฬาอื่นๆ ผู้หญิงเลือกทำกิจกรรมชอปปิ้งหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ชื่นชอบ แล้วจึงกลับมารวมตัวกันเมื่อถึงเวลาทานอาหารหรือพักผ่อน โดยค่าบริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าโรงแรมที่พักหรือกิจกรรมทางการท่องเที่ยวจะต้องคิดค่าบริการในราคาคนไทย ไม่ใช่ราคาชาวต่างชาติ
โดยเตรียมนำเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้นายกฯ สั่งการให้แหล่งท่องเที่ยวของรัฐและเอกชนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุทยานทางประวัติศาสตร์ อุทยานทางธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ วัดวาอาราม ฯลฯ กำหนดค่าบริการท่องเที่ยวของเอ็กซ์แพทในราคาเดียวกับคนไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์เช่นนี้
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) อธิบายต่อว่า เอ็กซ์แพทถือเป็นผู้มีถิ่นพำนักภายในประเทศไทย แต่เมื่อเดินทางท่องเที่ยวภายในไทยยากที่จะแยกออกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เอ็กซ์แพทส่วนใหญ่มักถูกคิดค่าบริการอัตราเดียวกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้น การปรับราคาสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆ สำหรับเอ็กซ์แพทให้อยู่ในอัตราเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวไทยจะช่วยให้เอ็กซ์แพตกว่า 2 ล้านคนในไทยออกท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น คาดว่าจะสร้างมูลค่าสะพัดกว่าหมื่นล้านบาท
โดย ททท. จะประสานงานกับภาคเอกชนและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ให้มีความเข้าใจตรงกันเรื่องอัตราค่าบริการของเอ็กซ์แพทในประเทศไทย โดยอยู่ระหว่างหารือว่าจะสามารถออกบัตรแสดงตัวตนให้กับชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทยกลุ่มนี้หรือไม่ เพื่อให้ใช้ในการยืนยันตัวตนในการใช้บริการสินค้าและบริการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้ดีมานด์ในประเทศที่มีอยู่ออกมาช่วยหมุนเวียนกระแสเงินสด หนุนโมเมนตัมในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะไทยไม่สามารถรอแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรายละเอียดของแนวคิดดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้