อุดรธานี – เปิดใจสองตายายเจ้าของสุนัขชื่อ “เจ้าโย่ง” ถูก ผอ.ยิงตายต่อหน้านักเรียน เผยเสียใจมากเพราะเลี้ยงสุนัขเหมือนลูก ด้าน ผอ.ขอไกล่เกลี่ยจ่ายเงิน 2,000 บาท ซ้ำแถไม่ได้ฆ่าสุนัข ส่วนเงินที่จ่ายให้ตายายให้ในฐานะผู้บริหารสถานที่เกิดเหตุเท่านั้น งง WDT รู้เรื่องได้อย่างไรเพราะตนต้องการปิดข่าว
จากกรณีเพจของมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand WDT ได้โพสต์เรื่องราวของ ผอ.ยิงสุนัขตายในโรงเรียน มีข้อความว่า “WDT รับแจ้ง ผอ.โรงเรียนยิงหมาตายต่อหน้าเด็กนักเรียน จ่ายค่าปิดปากทำขวัญสองพันไกล่เกลี่ยให้จบเรื่อง โรงเรียนนาทรายน้ำรอด อ.พิบูลรักษ์ จ.อุดรธานี WDT รับเรื่องร้องเรียนที่น่าตระหนกเป็นที่สุดในวงการศึกษาไทย
โดยเหตุเกิดขึ้นเช้าวันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 9 โมง น้องหมาชื่อ “เจ้าโย่ง” วิ่งตามหลานของเจ้าของไปโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี สุนัขตามไปส่งเด็กไปโรงเรียน…ซึ่งควรจะเป็นภาพชีวิตที่น่ารัก แต่กลายเป็นว่าเจ้าโย่งต้องไปตายด้วยฝีมือของคนใจร้ายที่มีสถานภาพเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน! เจ้าโย่งผู้ภักดีถูกยิงตายคาที่ภายในโรงเรียนแห่งนี้ ในโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนเรียนหนังสืออยู่ และเด็กๆทุกคนก็ได้เห็นพฤติกรรมอันโหดเหี้ยมนี้
เจ้าของเป็นคุณยายเข้าแจ้งความที่ สภ.พิบูลย์รักษ์ ตำรวจลงพื้นที่แล้วให้ไกล่เกลี่ยกัน คนยิงสุนัขจ่ายเงินทำขวัญสองพันแล้วขอให้จบเรื่อง ยายเป็นแค่คนแก่บ้านๆ ไม่อยากมีเรื่องเลยจำต้องยอมจำนน
คนยิงสุนัขยังมีการไปถามเด็กนักเรียนว่ามีใครเห็น ผอ.ยิงสุนัขบ้าง แล้วจะมีนักเรียนหน้าไหนกล้าบอกว่าเห็น ไม่มีใครเห็นแต่ “กรรม” เห็นครับ WDT ประสาน นายสมศักดิ์ แสนอินทร์ นายอำเภอพิบูลย์รักษ์ และ พ.ต.อ.กีรติกร อมรพัฒน์ภาคิน ผกก.สภ.พิบูลย์รักษ์ อุดรธานี ตรวจสอบเหตุทารุณกรรมสัตว์ท้าทายกฎหมายนี้ เพราะนี่คือสถาบันการศึกษา เราจะปล่อยให้ลูกหลานของเราได้รับการศึกษาจากครูผู้ให้ที่เป็นฆาตกรเลือดเย็นและไร้เมตตาต่อสรรพชีวิตอย่างนี้หรือ
มาดูการทำหน้าที่ของรัฐในการจัดการคดีที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนนาทรายน้ำรอด อ.พิบูลรักษ์ จ.อุดรธานี เป็นข้าราชการกระทำผิดอาญาร้ายแรง ทารุณกรรมสัตว์ ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.อาวุธปืน และ 157 มีอย่างเดียวคือต้องเด้งนะครับ ติดตามครับ”
ขอบคุณ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี นายสมศักดิ์ แสนอินทร์ นายอำเภอพิบูลย์รักษ์ พ.ต.อ.กีรติกร อมรพัฒน์ภาคิน ผกก.สภ.พิบูลย์รักษ์ อุดรธานี พ.ต.ท.ปรีดา มุลาลินน์ รอง ผกก.สส.สภ.พิบูลย์รักษ์ อุดรธานี พ.ต.ท.อดุลย์ วรอนุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.พิบูลย์รักษ์ อุดรธานี สำนักงานกฎหมาย ทนายคลายทุกข์ คุณเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษากฎหมาย WATCHDOG THAILAND ประชาชนผู้ร้องเรียนเหตุทารุณกรรม ประชาชนผู้ร้องเรียนเหตุทารุณกรรมอาสาประชาชนเครือข่าย Watchdog Thailand
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในบ้านนาทรายน้ำรอด ต.นาทราย อ.พิบูลย์รักษ์ พบกับนายสุจิต งามจำปี อายุ 61 ปี และนางอำนวย งามจำปี อายุ 58 ปีเจ้าของสุนัข “เจ้าโย่ง” โดยสองตายายเปิดเผยว่าเสียใจมากต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำไมถึงยิงสุนัขได้
นายสุจิตเล่าว่า สุนัขตัวนี้ลูกสาวที่อยู่ชลบุรีส่งมาให้ตาและยายเลี้ยงและเอาไว้เล่นกับหลานสองคน ตนก็ผูกพัน ได้ยินว่ามีคนยิงตอนแรกก็หน้ามืดยอมรับโกรธมาก เจ้าโย่งเลี้ยงมา 8 ปีแล้วรักเหมือนลูกหลานอีกคนเลยเพราะเป็นสุนัขแสนรู้ ก่อนเจ้าโย่งจะถูกยิงตายในโรงเรียนเดินตามหลานไปโรงเรียน พอเจ้าโย่งตามไปถึงโรงเรียน หลานก็โทร.มาบอกว่า ผอ.ยิงหมาเฮาตายแล้ว หลานร้องไห้ ตาและยายก็ตกใจก็รีบไปดู
พบเจ้าโย่งถูกยิงตายอยู่สนามบาสฯ ข้างบ้านพัก ผอ.โรงเรียน ตนแค้นใจมาก โดนยิงนัดเดียวบริเวณอกนัดเดียวไม่รอดเลย ส่วนที่ว่าสุนัขกัดไก่นั้นไม่ใช่ เพราะเจ้าโย่งไม่เคยกัดไก่ตั้งแต่เลี้ยงมา 8 ปี วันนั้นตนโกรธมากเดินเข้าไปบ้านพัก ผอ.ถามว่าทำไมยิงหมาผม ผอ.ก็ทำโบ้ยหมาใครตายอยู่ไหน แล้ว ผอ.ว่าจะพาไปดูแต่สุดท้ายก็ไม่ไป ส่วนเงิน 2,000 บาทที่เขาให้มาตอนแรกตนบอกยายว่าเอามาทำไมเงิน 2,000 บาทมันชดเชยความสูญเสียไม่ได้ ฟูมฟักเลี้ยงมากว่า 8 ปีรักเหมือนลูกเหมือนหลานเลย
ขณะที่นางอำนวยเล่าต่อว่า วันนั้นวันจันทร์ที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ตอนเช้า 7 โมงกว่าก่อนเคารพธงชาติได้รับโทรศัพท์จากหลานสาวว่า ผอ.ยิงสุนัข ตนก็รีบไปเสียใจมาก จากนั้น ผอ.ก็ขอไกล่เกลี่ย บอกว่า ผอ.ไม่ได้ฆ่า ใครจะฆ่าหรืออย่างไรไม่ต้องพูดถึงแต่สุนัขมาตายในที่โรงเรียน ผอ.ขอรับผิดชอบ โดย ผอ.จ่ายเงินให้ 2,000 บาท
ส่วนตัวยายไม่ใช่คนเรื่องมากหรือชอบยุ่งยากก็เลยจบ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจจะนำเงิน 2,000 บาทไปฝากตำรวจคืนให้ ผอ.เพราะลูกสาวไม่ยอม และตอนนี้ทางตำรวจได้ให้ยายไปขุดเอาซากเจ้าโย่งไปตรวจร่องรอยถูกยิงที่ จ.ขอนแก่นแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายปรีชา บุญชัย ผอ.โรงเรียนบ้านนาทรายน้ำรอด โดยนายปรีชาไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพหรืออัดเสียงสัมภาษณ์ แต่ขอเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง บอกว่า ที่บ้านพักของตนเองเลี้ยงไก่ชนและไก่แม่พันธุ์ไก่ชนไว้หลายตัว ที่ผ่านมามีสุนัขมาลอบกัดไก่ตายไปกว่า 50 ตัวมีแต่ไก่ชนตัวแพงๆ แต่เป็นสุนัขใครนั้นไม่รู้ ถามว่าตนเองโกรธไหมที่มีสุนัขมากัดไก่ ยอมรับว่าโกรธ แต่ไม่เคยคิดจะฆ่าสุนัข ส่วนเรื่องปืนนั้นอยากมีอยากใช้ แต่ตนเองไม่ได้ไปขอใบอนุญาต
ผอ.ปรีชาเล่าให้ฟังต่อว่า วันนั้นตอนสุนัขตายตนกำลังอาบน้ำอยู่ในบ้านพัก พออาบน้ำเสร็จแต่งตัวจะไปเข้าแถวเคารพธงชาติกับนักเรียนก็ได้ยินนักเรียนร้องไห้บอกว่า ผอ.ยิงสุนัขตาย ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ยิง แต่จะเป็นใครยิงนั้นไม่ทราบ ถามว่าตนมีปืนไหม ไม่มี ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนยิงสุนัข
ส่วนที่เอาเงิน 2,000 บาทไปจ่ายเจ้าของสุนัขนั้นไม่ใช่ค่าปิดปากแต่เป็นความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนและสุนัขมาตายในโรงเรียนเท่านั้นเอง
ตอนท้ายนายปรีชาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นตนยอมรับอยากจะปิดข่าวไม่อยากให้เป็นข่าวโด่งดัง แต่ตอนนี้ข่าวไปไวมากเพราะโซเชียลมันไปไวมาก ไม่รู้ทางวอชด็อกรู้เรื่องได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด นายรัฐอิสรา กงวงษ์ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 3 อ.หนองหาน ได้สั่งตั้งกรรมการฯ เข้าไปตรวจสอบเรื่องราวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ผอ.ยิงสุนัขตายในโรงเรียนแล้ว