กรุงเทพฯ–5 ส.ค.–คาร์ลบายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
นายกัว ผิง ประธานกรรมการบริหาร แบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวในพิธีเปิดงานประชุม Better World Summit ถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างขอบข่ายเทคโนโลยีทั้ง 5 ในการปลดล็อคศักยภาพสูงสุดของ 5G เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จทางธุรกิจ พร้อมแขกรับเชิญจาก China Telecom, Etisalat, MTN, GSMA, และ 3GPP/ETSI ร่วมด้วยผู้เข้าร่วมประชุมออนไลน์หลายพันคนจากกว่า 80 ประเทศ เพื่อร่วมกันสำรวจศักยภาพของเทคโนโลยีเพื่อการสื่อสารและสารสนเทศ (ICT) ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ ทั้งในปัจจุบันและในโลกอนาคตหลังวิกฤตโควิด-19
ร่วมมือกันฝ่าวิกฤตโรคระบาดด้วยเทคโนโลยี
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตและการทำงานของเราไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ ICT สามารถเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์จากโควิด-19 ในครั้งนี้ได้ในหลายๆ ด้าน
นายกัว ผิง กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทด้าน ICT การใช้เทคโนโลยีที่เรามีเพื่อช่วยควบคุมและเอาชนะการระบาดใหญ่ครั้งนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเรา ด้วยความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และลูกค้าของเรา รวมถึงผู้ให้บริการโครงข่ายและองค์กรธุรกิจทุกประเภท เราสามารถใช้โซลูชันทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่ประชาคมโลกของเราได้”
“จากการที่เราเคยผ่านประสบการณ์ในพื้นที่ระบาดหนักตั้งแต่ช่วงแรก เราจึงได้พัฒนาโซลูชันจำนวนหนึ่งขึ้นโดยอิงจาก 9 สถานการณ์ที่มีการใช้เทคโนโลยี ICT เข้ามาช่วยต่อสู้กับการระบาดใหญ่ โดยเราได้แบ่งปันประสบการณ์และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการวางเครือข่ายในโรงพยาบาล การให้คำปรึกษาทางไกล การเรียนออนไลน์ หรือการฟื้นฟูภาครัฐและภาคธุรกิจ”
ปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงของ 5G: การร่วมมือกันระหว่าง 5 ขอบข่ายเทคโนโลยี
“ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้ 5G มากกว่า 90 ล้านคนทั่วโลก และเนื่องจากการวางโครงข่าย 5G ทั่วโลกเริ่มจะเสร็จสมบูรณ์ เราจึงจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญในการมุ่งเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เพื่อรองรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เราปลดล็อคศักยภาพที่แท้จริงของ 5G ได้” นายกัว ผิง กล่าว
ในแง่ของธุรกิจ เครือข่าย 5G ไม่ได้หมายถึงเพียงการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อเทคโนโลยีอย่าง 5G เทคโนโลยีการประมวลผลคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำงานผสานกัน เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยเสริมกำลังแก่กันและกัน แล้วสร้างโอกาสนานัปการให้กับทั้ง 5 ขอบข่ายเทคโนโลยีหลัก อันได้แก่ การเชื่อมต่อ, AI, คลาวด์, การประมวลผลคอมพิวเตอร์ และการปรับใช้กับภาคอุตสาหกรรม (industry applications)
“หัวเว่ยมีจุดแข็งเชิงลึกในทุกขอบข่ายเทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้น” นายกัว ผิง กล่าวเสริม “เราสามารถผสมผสาน ขอบข่ายเหล่านี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นโซลูชันที่อิงตามแต่ละสถานการณ์ ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของลูกค้าและพาร์ทเนอร์แต่ละรายของเรา นี่คือกุญแจสู่การปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงของ 5G และขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จในการใช้งานเชิงพาณิชย์”
การที่ 5G จะประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ได้นั้น ทั้งอุตสาหกรรมทั้งหมดจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน การปรับใช้ให้เข้ากับอุตสาหกรรมเดียวกันในแนวดิ่ง (Vertical industry applications) จะสามารถทำซ้ำได้ในระดับอุตสาหกรรมก็ต่อเมื่อมาตรฐานของอุตสาหกรรมนั้นมีความร่วมมือกัน และมีอีโคซิสเต็มที่พร้อมใช้งาน “ในอนาคต หัวเว่ยจะทุ่มเทความพยายามเป็นเท่าตัวเพื่อให้พาร์ทเนอร์ของเรามีศักยภาพที่พวกเขาต้องการ” นายกัว ผิง ระบุ “เราจะสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน และผลักดันการเติบโตให้กับทุกๆ คนในห่วงโซ่แห่งมูลค่า (value chain)”
สร้างสมดุลแก่เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว: การวางเครือข่ายอย่างแม่นยำเพื่อความคุ้มค่าสูงสุด
นายกัวกล่าวว่า “ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน กลุ่มผู้ให้บริการโครงข่ายต้องให้ความสนใจกับทั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว การวางโครงข่ายที่แม่นยำยิ่งขึ้นเป็นแนวทางที่พวกเขาจะสามารถสร้างมูลค่าแก่เครือข่ายต่างๆ ในมือพวกเขาให้มีคุณค่าสูงสุด” ทั้งนี้ หัวเว่ยได้มอบคำแนะนำสามประการในประเด็นนี้ อันได้แก่
ประการแรก ผู้ให้บริการโครงข่ายควรให้ความสำคัญแก่ประสบการณ์ของผู้ใช้และลงทุนในส่วนที่จำเป็นมากที่สุด เพื่อสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่กลุ่มเครือข่ายที่ตนมีอยู่แล้วประการที่สอง ผู้ให้บริการโครงข่ายควรใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครือข่าย 4G และ FTTx ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และผสานเครือข่ายเหล่านี้เข้ากับกลุ่มเครือข่ายใหม่อย่าง 5G ผ่านการร่วมมือแบบองค์รวมและการวางแผนอย่างแม่นยำประการที่สาม แผนการวางเครือข่าย 5G ควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีการใช้งานอย่างหนาแน่น (hotspots) และการนำไปประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมหลักเป็นลำดับแรก
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสมาร์ทดีไวซ์ ด้วยโซลูชั่นที่ผสมผสานในสี่กลุ่มหลัก คือ เครือข่ายโทรคมนาคม, ไอที, สมาร์ทดีไวซ์ และบริการคลาวด์ บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาสู่การใช้งานทุกระดับเพื่อทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร เพื่อขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่นและบริการที่ครบวงจรของหัวเว่ยเปี่ยมด้วยศักยภาพด้านการแข่งขันและเชื่อถือได้ จากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในระบบนิเวศแบบเปิด หัวเว่ยสามารถสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า เสริมสมรรถนะของผู้คน ช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกสบาย และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรทุกรูปแบบและทุกขนาด นวัตกรรมของหัวเว่ยเน้นตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลในด้านการวิจัย เน้นค้นหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนโลกของเราให้ก้าวไปข้างหน้า เรามีพนักงานกว่า 194,000 คน ดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่มีพนักงานเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com
ติดตามเราได้ที่
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/HuaweiTechTH
http://www.youtube.com/Huawei