เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กาญจนบุรี – แขวงทางหลวงเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 วัดใจชาวกาญจนบุรี จะเอาสะพานข้าม หรืออุโมงค์ เพื่อพัฒนาแยกวังสารภี ตามแผนโลจิสติกส์รับ มอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี หากช้าส่งผลกระทบแน่ ด้าน ส.จ.ชื่อดัง เชื่อหากสร้างเป็นอุโมงค์จะสะดวกด้านขนส่งสินค้าในอนาคต
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองปากแพรก ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายแสงทอง พาแก้ว ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยก จุดตัดทางหลวงหมายเลข 324 ตอนกาญจนบุรี-หนองขาว ที่ กม.2+586 กับทางหลวงหมายเลข 367 ตอน ทางเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ที่ กม.4+932 (สี่แยกวังสารภี) ครั้งที่ 2
โดยมีเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาญจนบุรี ประกอบด้วย นายบรรเจิด สาเฉย รอง ผอ.แขวงทางหลวงกาญจนบุรี นายอิสระ เอมฉวี หัวหน้าหมวดทางหลวงปากแพรก นายธนากร สินอิน หัวหน้างานอำนวยความปลอดภัย (ไฟฟ้า) เข้าร่วม มีนายธีรพันธ์ ภูมิรัตนประพิณ นายช่างโครงการฯ (สำนักก่อสร้างสะพาน) วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักก่อสร้างสะพาน เป็นวิทยากร พร้อมกับตอบข้อซักถาม
นอกจากนี้ ยังมีนายจิรศักดิ์ พรหมชนะ รักษาการนายกเทศบาลเมืองปากแพรก นายจรันต์ ยิ่งภิญโญ สมาชิก อบจ.เขต 3 อำเภอเมืองกาญจนบุรี นายประสาน นิยมทรัพย์ สมาชิก อบจ.เขต 1 อำเภอเมืองกาญจนบุรี รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อโครงการดังกล่าวกว่า 200 คนเข้าร่วม โดยการแสดงความคิดเห็นของผู้มีส่วนร่วมในครั้งนี้ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
นายแสงทอง พาแก้ว ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนในฐานะแขวงทางหลวงกาญจนบุรี ซึ่งเราเป็นเจ้าของพื้นที่ การพัฒนาหรือการก่อสร้างต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นของสำนักสะพานกรมทางหลวง ซึ่งเราในฐานะแขวงทางหลวงกาญจนบุรี มีหน้าที่เปิดเวทีแสดงความคิดเห็นการมีส่วนร่วมของประชาชนให้แก่สำนักสะพาน กรมทางหลวง ส่วนงบประมาณที่จะเกิดขั้นหรือจะต้องนำพื้นที่ไปพัฒนาในรูปแบบใดนั้น ตรงนี้เป็นหน้าที่ของส่วนกลางที่จะนำไปพิจารณาและบริหารงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
ถามว่าเงินงบประมาณการก่อสร้างสะพานข้ามสี่แยกวังสารภี ปี 63 นั้นตกไปแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งตรงนี้จะพูดคำว่างบประมาณตกไปแล้วไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้งบประมาณยังอยู่ที่สำนักสะพาน เพียงแต่ว่าวันนี้เรามาพิจารณารูปแบบการก่อสร้างที่อาจจะส่งผลกระทบหรือไม่ส่งผลกระทบในการพัฒนาในครั้งนี้ ข้อมูลต่างๆ ที่เราร่วมกันพิจารณาในวันนี้จะนำไปพิจารณาในส่วนของสำนักสะพานจากส่วนกลางอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการแสดงความคิดเห็นในวันนี้ มีความเห็นออกมาทั้งสองฝ่าย คือ ทั้งต้องการให้สะพานสะพานข้ามแยกวังสารภี และต้องการให้สร้างเป็นอุโมงค์ลอดแยกวังสารภี แต่ทั้งนี้เรามีข้อมูลที่เป็นเอกสารคือข้อมูแบบสอบถามจากประชาชน ซึ่งข้อมูลที่ได้มาตรงนี้เราจะนำไปพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ในเบื้องต้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า การพัฒนาแยกวังสารภี จะเป็นการก่อสร้างในรูปแบบใด เพราะจะต้องมาพิจารณาถึงผลกระทบของคนในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าหากเลือกก่อสร้างในรูปแบบสะพานข้าม ก็สามารถประกาศหาบริษัทผู้รับจ้างตามระเบียบของส่วนราชการได้เลย แต่หากเปลี่ยนเป็นก่อสร้างในรูปแบบทางลอดที่เป็นอุโมงค์ ต้องมีการสำรวจออกแบบใหม่ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ล่าช้าออกไปอีก
แล้วจะไปส่งผลกระทบต่อโรดแมปที่เราจะพัฒนาทางด้านโลจิสติกส์เพื่อรองรับโครงการก่อสร้างเส้นทางบางใหญ่-กาญจนบุรี หรือเส้นทางมอเตอร์เวย์ ที่จะแล้วเสร็จประมาณปี 2566 ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีของเราเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เมื่อถึงวันหยุดยาว หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ยวดยานพาหนะจะติดมากพอสมควร
ด้าน นายประสาน นิยมทรัพย์ หรือ ส.จ.ประสาน สมาชิก อบจ.อ.เมืองกาญจนบุรี เขต 1 กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วอยากได้สิ่งดีๆ เข้ามาสู่จังหวัดกาญจนบุรี เพราะจังหวัดกาญจนบุรีเป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองเกษตรกรรม ปัจจุบันนี้บริเวณสี่แยกวังสารภี มีประชากรที่ผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก รถที่วิ่งเข้าออกเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1 หมื่นคัน
สิ่งที่เราต้องการคือขอให้มีการสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอด เพราะอนาคตจะทำให้การขนส่งสินค้าด้านการเกษตรจะมีความสะดวกยิ่งขึ้น ส่วนการออกแบบทางวิศวกรรมของกรมทางหลวง จะต้องออกแบบเรื่องของการระบายน้ำให้เป็นอย่างดี
สำหรับงบประมาณปี 63 จำนวน 450 ล้านบาทที่ใช้สำหรับการก่อสร้างสะพานข้ามนั้นถึงแม้จะตกไปก็ไม่เป็นอะไร ส่วนงบประมาณปี 64 ทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส.จังหวัดกาญจนบุรีทั้ง 5 ท่าน ได้มีการประชุมหารือกันแล้ว ซึ่ง ส.ส.ทุกท่านจะได้ช่วยกันผลักดันให้มีการก่อสร้างเป็นอุโมงค์ลอดทางแยกวังสารภี ถึงแม้งบประมาณการก่อสร้างจะเพิ่มมากขึ้น แต่ในระยะยาวจะทำให้ชาวจังหวัดกาญจนบุรีมีความสะดวกและจะเป็นหน้าเป็นตาให้แก่ชาวกาญจนบุรีต่อไป