เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ประจวบคีรีขันธ์ – คดีลูกจ้างสำนักงานจังหวัดประจวบฯ โกงงบหลวง 40 ล้าน ไม่คืบหน้า หลังสอบสวนนาน 40 วัน ไร้ข้อสรุป ตำรวจมึนธนาคารส่งสำเนาเช็คให้ตรวจสอบลายมือชื่อปลอม
จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานราชการ สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บุตรสาวอดีตกำนัน ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบฯ ถูกแจ้งดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 หลังจากนำเงินงบประมาณของทางราชการกว่า 40 ล้านบาท จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และพบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็คและการเบิกจ่ายผ่านระบบออนไลน์รวม 165 ครั้ง
วันนี้ (7 ส.ค.) พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร (ผบก.ภ.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การทำคดียอมรับว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติพอสมควร แต่เจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งรัดทำหนังสือถึงสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอตรวจสอบการใช้เช็ค 78 ฉบับ เพื่อใช้เบิกจ่ายงบประมาณ เพราะต้องการพิสูจน์ลายมือชื่อในเช็คว่ามีการปลอมแปลงเอกสารจริงหรือไม่
แต่สถาบันการเงินมอบให้เพียงเช็คที่มีการถ่ายสำเนา โดยไม่ยินยอมนำต้นขั้วเช็คตัวจริงมามอบให้ เพื่อนำไปทำการพิสูจน์ลายมือชื่อของผู้มีอำนาจลงนาม ตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ โดยอ้างระเบียบวิธีปฏิบัติของหน่วยงาน ซึ่งคาดว่าสถาบันการเงินเกรงว่าจะมีปัญหาในภายหลัง หากพบว่าเช็คบางฉบับมีการใช้ลายมือชื่อปลอม
“หลังจากข้าราชการบางรายยืนว่า ผู้ต้องหามีการปลอมลายมือชื่อเพื่อนำไปเบิกจ่าย เรื่องนี้ต้องได้ข้อยุติโดยเร็ว เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 3 รายถึงพนักงานอัยการศาลคดีทุจริตภาค 7 ให้เสร็จภายในระยะเวลาการฝากขัง น.ส.ขนิษฐาในผลัดที่ 7 ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังที่เรือนจำกลาง จ.สมุทรสงคราม พร้อมกับมารดาคือ นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม หลังจากศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ไม่อนุญาตให้ประกันตัว”
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ใดเพิ่ม แนวทางการสอบสวนที่ผ่านมามีนางประชิต วงศ์ประภารัตน์ นักวิชาการการเงินและบัญชี ชำนาญการ สำนักงานจังหวัดเพียงรายเดียว ที่รับทราบข้อกล่าวหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ด้านจ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการติดตามผลการสอบสวน หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในระดับจังหวัด มีปลัดจังหวัดทำหน้าที่ประธานสอบสวนความผิดทางวินัย และทางละเมิดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยในจังหวัด สอบสวนกันเอง
ล่าสุด ได้รับแจ้งว่าจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดว่า การสอบสวนยังไม่เสร็จ หลังจากตนได้ร่วมกับตัวแทนสื่อมวลชนใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ยื่นผ่านศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเปิดเผยผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของกรรมการทุกชุด
มีรายงานว่า กลุ่มสื่อมวลชนทุกแขนงในจังหวัด ได้นัดหมายเพื่อรวมตัวแถลงข่าวที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เปิดเผยผลการสอบสวนหรือสาเหตุที่มีการสอบสวนล่าช้า พร้อมไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ เนื่องจากการสอบสวนไม่มีความซับซ้อน หรือ ต้องใช้เทคโนโลยีและผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบการโอนเงินผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ากระทำการทุจริต หลังจากมีการใช้รหัสผ่านในระบบและสมาร์ทการ์ดของผู้มีอำนาจเบิกจ่ายครบทุกขั้นตอน