สลด 2 ผัวเมียนักธุรกิจเมืองพัทยาเครียด ฝ่ายชายป่วยติดเตียงหลายโรครุมเร้า แถมธุรกิจทัวร์ย่ำแย่ จากพิษโควิด-19 ตัดสินใจฆ่าตัวตายคาห้องพระ เผยเตรียมตัวไปสู่ปรโลก วางดอกไม้ธูปเทียนบนอก ก่อนผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือโยงไปยังพระพุทธรูป พร้อมเขียนจดหมายสั่งเสียญาติจัดการเรื่องมรดกและให้จัดงานศพคู่กัน
2 ผัวเมียฆ่าตัวตายในห้องพระครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 ส.ค. พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สามารถ บุญฤทธิ์ สว. (สอบสวน) สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เขต 2 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา ร่วมตรวจสอบผู้เสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 16/329 หมู่บ้านโชคชัยกรีนวิลล์ ซอยพรประภานิมิตร 14/5 หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังใหญ่มีรั้วรอบขอบชิด ปลูกสร้างบนเนื้อที่ราว 60 ตารางวา ในโรงรถมีรถเบนซ์ สีบรอนซ์ สภาพใหม่จอดอยู่ในห้องพระพบผู้เสียชีวิต 2 ศพ ทราบชื่อนายดิเรก อารีราษฎร์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายอยู่บนที่นอน มีดอกไม้ธูปเทียนวางอยู่กลางอก และศพ น.ส.ขวัญใจ เมืองมูล อายุ 37 ปี ภรรยา สวมชุดกระโปรงยาวสีครีมลายดอกนอนคว่ำหน้า ที่ข้อมือของผู้ตายทั้ง 2 คน ผูกสายสิญจน์โยงไปยังพระพุทธรูปบนโต๊ะบูชา
ในที่เกิดเหตุยังพบจดหมายเขียนด้วยลายมือฝ่ายหญิง สรุปใจความว่า ฝ่ายชายเครียดเรื่องสุขภาพที่เป็นหลายโรครุมเร้า พร้อมสั่งเสียให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลคู่กัน และจัดการเรื่องทรัพย์สินต่างๆที่ระบุว่ายกให้ใครบ้าง เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานต่างๆและบันทึกภาพในห้องที่เกิดเหตุ
น.ส.มัลลิกา มลิวัลย์เครือ อายุ 25 ปี หลานของ น.ส.ขวัญใจ กล่าวว่า ปกติตนจะแวะเวียนมาดูแลทั้ง 2 คน เนื่องจากนายดิเรกป่วยติดเตียงร่วม 10 ปี มี น.ส.ขวัญใจ น้าสาวของตน คอยดูแลใกล้ชิด ก่อนเกิดเหตุได้ติดต่อกับน้าสาวครั้งสุดท้ายเมื่อราว ตี 1 คืนวันที่ 6 ส.ค. ยังส่งข้อความพูดคุยกันทางไลน์ตามปกติ จากนั้นช่วงเช้าและตลอดทั้งวันติดต่อไม่ได้ รู้สึกเอะใจเลยมาดูที่บ้าน พบว่าทั้ง 2 คนเสียชีวิตอยู่ในห้องพระแล้ว
เบื้องต้นตำรวจคาดสาเหตุมาจากความเครียดเรื่องโรคประจำตัว รวมทั้งธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับรับทัวร์นำนักท่องเที่ยวไปส่งกินอาหารบนเรือท่องอ่าวพัทยา ธุรกิจต้องหยุดชะงักลงเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจเป็นสาเหตุให้ทั้ง 2 คนตัดสินใจฆ่าตัวตายในห้องพระของบ้านดังกล่าว นำศพส่งให้แพทย์ชันสูตรการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี