วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม 2563 เวลา 17.09 น. การประชุมอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สภาผู้แทนราษฎร ล่าสุด ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ (สผ.) 305 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย)
ส.ส.ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ ส.ส.ดร.เอกการ ซื่อทรงธรรม ประธานอนุคณะกรรมาธิการติดตามผลกระทบทางด้านการกีฬาเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการประชุมคณะอนุกรรมาธิการฯ ครั้งที่ 2 มีนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรรมาธิการ และมีตัวแทนในกลุ่มผู้ประกอบการ อาทิ นักกีฬามวย สมาคมการค้าเครื่องกีฬา สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ประกอบการด้านฟิตเนส
ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ ซูเปอร์สตาร์มวยไทย หัวหน้าค่ายมวยบัญชาเมฆ เข้าอธิบายถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจด้านการกีฬา
การรับฟังครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความต้องการให้รัฐบาลทำการปลดล็อกทุกชนิดกีฬาให้สามารถดำเนินการจัดการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ โดยยกตัวอย่างการปลดล็อกให้มีการท่องเที่ยวหรือตามสถานบันเทิง แต่คำถามหลักนั้น คือ ทำไมรัฐบาลถึงไม่ยอมปลดล็อกในเรื่องของการกีฬา เพราะทำให้นักกีฬาทุกชนิดได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีการจัดการแข่งขัน โดยเฉพาะมวยไทย ซึ่ง ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวชาว บัญชาเมฆ ได้ใช้คำพูดว่า “ผมไม่มีอำนาจที่จะทำอะไรได้ แต่หวังที่จะให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือ” ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงปัญหาการช่วยเหลือนักกีฬาระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทยกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มีงบประมาณในกองทุนสูงกว่า 4,200 ล้านบาท
ร.ต.สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว บัญชาเมฆ กล่าวว่า ผลกระทบต่อนักกีฬามวยไทยคงไม่ต้องพูดถึงเพราะวันนี้ยังไม่มีการจัดการแข่งขัน แต่นักกีฬามวยไทย มีค่าใช้จ่ายสำคัญคือ ต้องมีที่ซ้อม ต้องกิน และต้องมีที่นอน เมื่อไม่มีการแข่งขันจึงไม่มีสปอนเซอร์ วิธีการแก้ไขปัญหายอมรับว่าในค่ายได้อยู่กันอย่างพอเพียงแต่ทุกวันนี้ลำบากและยากที่จะต้องแบกภาระ สิ่งที่หวังนั้นก็คือการช่วยเหลือหรือสงเคราะห์ให้แต่ละค่าย