เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ลามาร์ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็กอนาคตไกล บัลติมอร์ เรฟเวนส์ หวังสยบข้อครหา สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเกมเพลย์ออฟ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ก่อนปะทะ เทนเนสซี ไตตันส์ รอบ ไวลด์ การ์ด ที่นิสสัน สเตเดียม วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม
แจ็คสัน กุมสถิติ 0-2 เฉพาะโพสต์ซีซัน แพ้ แอลเอ ชาร์เจอร์ส เมื่อปี 2018 และ ไตตันส์ ฤดูกาลที่แล้ว มุ่งมั่นเลี่ยงถูกจารึกประวัติศาสตร์ เป็นควอเตอร์แบ็กคนที่ 2 ของลีก ยุค “ซูเปอร์โบว์ล” ซึ่งปราชัยเกมเพลย์ออฟ ตลอด 3 ซีซันแรก ต่อจาก แอนดี ดาลตัน
ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ กล่าว “แน่นอน เป้าหมายอันดับ 1 ของผม คือ พยายามลบคำสบประมาทแบบนั้น”
เจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2019 โดดเด่นช่วงฤดูกาลปกติ สถิติ 30-7 กลายเป็นผู้เล่นซึ่งเก็บชัยครบ 30 เกมเร็วสุดของ NFL และชนะมากสุดของลีก นับตั้งแต่ลงเล่นตัวจริงให้ เรฟเวนส์ ตั้งแต่ปี 2018 ทว่าแพ้สกอร์รวม 29-51 ทั้งที่เล่นเกมเหย้า และเหนือกว่าคู่แข่ง
ควอเตอร์แบ็กระดับ MVP ของ NFL ซึ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยความพ่ายแพ้ 3 เกมรวด เฉพาะเพลย์ออฟ ได้แก่ เพย์ตัน แมนนิง, แม็ตต์ ไรอัน, เบิร์ต โจนส์ และ วาย.เอ. ทิตเทิล
“สถานการณ์ตอนนี้ คือ ชนะหรือกลับบ้าน ผมไม่แคร์ใครจะพูดอย่างไร ผมเคยเล่นเพลย์ออฟมาแล้ว 2 ครั้ง ช่วงระยะแรกของอาชีพ ขณะที่หลายๆ คน เล่นอาชีพมายาวนาน แต่ไม่เคยสัมผัสเพลย์ออฟแม้แต่ครั้งเดียว”
แจ็คสัน ทำเรตติงควอเตอร์แบ็ก (QBR) 72.3 รั้งอันดับ 2 ของลีก รองแค่ แพทริค มาโฮมส์ จอมทัพ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (79.8) ปิดสกอร์ 85 ทัชดาวน์ เสีย 23 เทิร์นโอเวอร์ เฉพาะฤดูกาลปกติ ทว่าเข้าสู่เพลย์ออฟ สถิติลดฮวบ เรตติงเหลือ 21.6 ปิดสกอร์ 3 ทัชดาวน์ เสีย 5 เทิร์นโอเวอร์
ปัญหาของ จอมทัพวัย 23 ปี คือ อาการเครื่องร้อนช้า ขว้างคอมพลีตแค่ 48 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีทัชดาวน์ เสีย 3 อินเทอร์เซ็ปต์ เฉพาะ 3 ควอเตอร์แรก
อย่างไรก็ตาม แจ็คสัน เชื่อว่าฟอร์มการเล่นน่าจะดีกว่าเดิม เนื่องจาก “อีกาพญายม” ต้องดิ้นรนกวาดชัยชนะ 5 เกมสุดท้าย การันตีโควตา ไวล์ด การ์ด สายเอเอฟซี (AFC) ผิดกับฤดูกาลที่แล้ว ที่คว้าอันดับ 1 ของคอนเฟอเรนซ์ ก่อนจบเรกูลาร์ ซีซัน
“สำหรับตัวผมฤดูกาลที่แล้ว เรามีช่วงเวลาพักยาวนาน ทำให้ผมค่อนข้างเฉื่อยชา การเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่วเหมือนเคย การลงเล่นต่อเนื่อง มันทำให้ผมรู้สึกตื่นตัว ไม่มีบายวีกแก่เรา เราลุยกันต่อทันที มองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่มุ่งมั่นกับหน้าที่ตัวเอง เราต้องเผด็จศึกคู่แข่ง นั่นคือกุญแจสำคัญของเรา”