เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ไทย กับ เมียนมา อย่างน้อยก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ประชาชนทั้งประเทศต้องการบริหารจัดการประเทศด้วยระบอบประชาธิปไตย หมายถึง ใครประสงค์ดำเนินการทางการเมือง เข้ามาปกครองประเทศก็เสนอตัวกันมาให้ผู้คนลงคะแนนเลือก เป็นการแข่งขันแบบแฟร์เกม แต่ ทหาร ดันต้องการครองอำนาจ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง รุ่น เหล่า จัดการผูก วางกำลังเป็นเครือข่ายในทุกองค์กรการปกครอง เป็นรัฐซ้อนรัฐ หรือที่เขาเรียกว่า รัฐพันลึก (Deep state) และใช้สรรพกำลังที่ประชาชนมอบให้ไว้เพื่อต่อสู้กับศัตรูนอกประเทศแว้งกลับมายึดอำนาจ โดยหาเหตุร้อยแปดอะไรก็ได้มาอ้าง แม้ไม่อาจสร้างความสุขให้คนในประเทศ แต่ไล่ก็ไม่ไป
ตัวอย่างของความล้มเหลว ไม่อาจสร้างความสำเร็จทั้งเงินและกล่องพร้อมๆกัน จนต้องถอยออกไปนั้นมีให้เห็นใน ลา ลีกา ของ สเปน ย้อนกลับไปปลายปี 1995 ลอเร็นโซ ซานซ์ (Lorenzo Sanz) อดีตผู้อำนวยการสโมสร เรอัล มาดริด ก้าวขึ้นมาเป็นประธานจากความล้มเหลวในทุกมิติ ทั้งด้านการเงิน ผลการแข่งขัน และความเป็นที่นิยม ของ ราม็อน เม็นโดซา (Ramón Mendoza) ประธานคนก่อน ลอเร็นโซ เลือกใช้เงินของตนเองเพื่อซื้อสุดยอดนักเตะอย่าง ดาวอร ชูเคอร์ (Davor Šuker) ดาวยิง ทีมชาติโครเอเชีย และ ปเรดรั๊ก มียาโตวิช (Predrag Mijatović) กองหน้าเซรเบีย เข้ามาเพื่อสร้างความสำเร็จในระดับทวีปยุโรปที่ห่างหายมาร่วม 30 ปี ทำให้ โล้ส บลังโก๊ส คว้าแช้มพ์ถ้วยใหญ่ทวีปยุโรปฤดูกาล 1997-98 และ 1999-2000 มาจนได้
แต่กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอ เขาไม่ได้รับเลือกให้ไปต่อ เพราะปัญหาเรื่องการเงินของสโมสรที่ป่วยยาวอย่างเรื้อรังถือเป็นจุดอ่อนด้านการบริหารของเขา ทำให้ ฟลอเร็นตีโน เปเร้ซ (Florentino Pérez) นักธุรกิจหนุ่มชาวสเปน วัย 53 ปี นำจุดนี้มาโจมตี จนได้รับเลือกให้เป็นประธานสโมสรแทนในปี 2000
ยุคแรกของ ฟลอเร็นตีโน ขนซื้อบรรดานักเตะอันดับ 1 ของโลกมาปีละคน เริ่มด้วยการกระชาก ลูอิช ฟีโก (Luís Figo) มิดฟีลด์ ทีมชาติปอรตูเกา มาจากอกของ บารเซโลนา คู่ปรปักษ์ตลอดกาล นี่เป็นผลงานกระฉ่อนทีเดียว ก่อกำเนิดยุคแห่ง ซุพเพ่อร์สตาร์ ที่เรียกว่า กาลักตีโก๊ส (Galácticos) หมู่ดาวเตะสุดยอดของโลกค่อยๆถูกซื้อตัวมาร่วมทีม
ปี 2001 ซีเนดีน ซีดาน (Zinédine Zidane) มิดฟีลด์ ทีมชาติฝรั่งเศส แช้มพ์โลก ย้ายจาก ยูเว็นตุ๊ส ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลก ปีรุ่งขึ้น โล้นทองคำ โรเนาโด (Ronaldo) ดาวยิงทีมชาติบราซิว แช้มพ์โลก ย้ายมาจาก อินเตรนาซิโอนาเล ปี 2003 ซื้อ เดวิด เบ๊คแค่ม (David Beckham) ช่วงนั้น ฟลอเร็นตีโน ได้รับเลือกเป็นประธานสมัยที่ 2 ในปี 2004 ด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น 94.2% แล้วไม่หยุดแค่นั้น ปี 2004 มายเคิ่ล โอเว่น (Michael Owen) ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ย้ายจาก ลิเว่อร์พูล และปี 2005 เป็นคิวของ โรบินโญ (Robinho) กองหน้าจอมเลื้อย ทีมชาติบราซิว
ฟลอเร็นตีโน เน้นแก้ปัญหาด้านการเงินของสโมสร และสามารถล้างหนี้สินไปหมด แต่ในขณะเดียวกัน การมีซุพเพ่อร์สตาร์เต็มทีมทำให้ไม่มีทางเลือก ต้องบีบบังคับคนเป็นโค้ชให้ขนลงสนามให้หมดไม่สนว่าจะเล่นเข้าขากันหรือไม่ เพราะต้องการขายเสื้อที่มีชื่อของเหล่าดารานักเตะทำรายได้เข้าสโมสร ยิ่งไปกว่านั้น ขืนให้นักเตะดังนั่งสำรองคงต้องเจอโวยจนทีมระส่ำแน่
ความสำเร็จทางด้านการเงินอย่างเดียวนี้เห็นผลชัดๆในฤดูกาล 2003-04 ที่ การโล้ช เกย์ร้อยช (Carlos Queiroz) เป็นผู้จัดการทีม เป็นฤดูกาลที่ล้มเหลวที่สุด เขาไม่อาจทำทีมตามแผนของตนได้อย่างอิสระ ทำให้ผลการแข่งขันง่อยมาก แม้มีรายได้สูงเข้าสโมสร แต่ปีนั้นก็ได้แค่ ซูแปรโกปา เด เอ๊สปาญา (Supercopa de España) ตั้งแต่ต้นฤดูกาล นอกนั้นวืดหมด จนแฟนๆหลายคนออกปากขับไล่ผู้บริหาร และในที่สุด ฟลอเร็นตีโน ก็ต้องยอมลาออกตอนต้นปี 2006
ฟลอเร็นตีโน กลับมาเป็นประธานสมัยที่ 2 ในปี 2009 เขาได้เรียนรู้มากขึ้น ยังคงสร้างความสำเร็จในด้านการเงินของสโมสรได้เป็นอย่างดี นับเป็นสโมสรที่มั่งคั่งที่สุดในโลกอันดับต้นๆ แถมผลงานของทีมก็ดีด้วย เขาซื้อดารานักเตะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งในนั้นคือ คริชติอาโน โรเนาโด ที่ร่วมสร้างความสำเร็จให้สโมสรจนคว้าถ้วยลา ลีกา มา 3 ใบ โกปา เด็ล เรย์ 2 ใบ ยูเอ๊ฟฟ่า 4 ใบ และ สโมสรโลก อีก 4 ใบ ความสำเร็จทั้งเงินทั้งกล่องนี่สิที่สร้างความสุขให้แฟนๆ ทำให้หนนี้เขาได้อยู่ยาวเป็นทศวรรษ ไม่เห็นมีใครต้องไปโห่ร้องขับไล่เหมือน ไทย กับ เมียนมา เลยครับ