ความเคลื่อนไหวหลังเกมฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2020 เกมที่ 25 เป็นเกมบิ๊กแมตช์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปเสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ถึงถิ่นเอสซีจี สเตเดียม สุดมัน 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า ขยับไปมี 48 คะแนน จากการลงสนาม 25 นัด
อเล็กซานเดร กามา หัวหน้าผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า “เกมวันนี้ครึ่งเวลาแรก ช่วง 30 นาทีแรก เราทำผลงานได้ดีกว่า แต่พอเรามีโอกาส เรากลับเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ ซึ่งเกมนี้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตั้งใจลงมารับแน่น และใช้การโต้กลับ โดยมี ปรเมศย์ อาจวิไล กับ วิลเลี่ยน พอพพ์ เป็นเป้าหมายในแดนหน้า ซึ่งแน่นอนการจบด้วยผลเสมอ เราไม่พอใจเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายของเรา คือการเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่ลงเล่น”
“ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้แหละ วันที่เราเล่นดีกว่า แต่ก็อาจจะไม่ชนะ แม้เราจะครองเกมได้ดี แต่ฟุตบอลตัดสินกันด้วยการยิงประตู ถ้ามีโอกาสแล้วทำไม่ได้ ก็ต้องยอมรับมัน ซึ่งต้องชมว่า 2 ประตูที่เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำได้ ก็เป็น 2 ประตูที่สวย ส่วนการลงสนามเตะที่ค่อนข้างถี่มากในช่วงนี้ ถามว่าส่งผลต่อสภาพทีมหรือไม่ตอบเลยว่า ส่งผลกับนักเตะพอสมควร ซึ่งแม้จะมีการสลับหมุนเวียนนักเตะตลอด แต่นักเตะก็ยังมีอาการล้า ซึ่งเราลงสนามก็อยากทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อรักษาระยะห่างของตารางคะแนนต่อไป”
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการมาเยือนเอสซีจี สเตเดียม อีกครั้ง และการคุมทีม 2 ครั้ง ยังไม่สามารถเอาชนะ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้เลย เรื่องนี้กุนซือชาวแซมบ้า เปิดเผยว่า “การมาเยือนที่นี่ มันก็ไม่ได้มีอะไรมาก เพราะผมเองมีความเป็นมืออาชีพ ต้องไปทุกที่อยู่แล้ว ทั้งบุรีรัมย์, เชียงราย และเมืองทอง เรามีหน้าที่ทำงาน ก็ต้องทำแบบมืออาชีพ ส่วนการยังไม่ชนะ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ก็ไม่มีอะไร เพราะมาริโอ ก็ยังไม่เคยคุมทีมเป็นแชมป์ ส่วนตนอยู่ไทยมา 7 ปี ได้แชมป์มาแล้วกี่ถ้วย ทุกคนก็เห็นกันอยู่ ความจริงก็คือฟุตบอลวัดกันที่แชมป์ ไม่ได้วัดกันว่าใครคุมทีมแล้วชนะได้มากกว่า”
เกมนัดต่อไปต้องเปิด ช้างอารีนา พบ สุโขทัย เอฟซี ในวันที่ 10 มี.ค. 64 กามา เปิดเผยว่า “เกมหน้าก็ยังถือเป็นงานที่หนักพอสมควร เพราะสุโขทัย เอฟซี ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่ง และมีการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น รอหาจังหวะโต้กลับ เราก็ต้องรีบกลับไปฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักเตะ ให้พร้อมที่สุดต่อไป”