ตะลอนเที่ยว “กาตาร์” เจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ที่อลังการไปด้วยเมืองสร้างใหม่ตึกสูงระฟ้าราวกับหนัง Sci-fi ในโลกอนาคต ตลาดสไตล์อาหรับย้อนยุค หมู่บ้านวัฒนธรรม ไปจนถึงทะเลทรายเวิ้งว้างงามแปลกตา
ประเทศกาตาร์ (Qatar) ดินแดนแห่งคาบสมุทรอาระเบีย ภูมิศาสตร์ของประเทศเป็นดินแดนเล็กๆที่ยื่นออกมาจากแผ่นดินใหญ่ของซาอุดิอาระเบียเข้าไปในอ่าวเปอร์เซีย ประเทศแห่งนี้นับเป็นหนึ่งในประเทศร่ำรวย รายได้ประชากรต่อหัวสูงนั้นเป็นลำดับต้นๆของโลก มีแหล่งก๊าซธรรมชาติใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซีย และอิหร่าน
แม้ว่าภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของกาตาร์ไม่โดดเด่น แต่ก็ยังมีสถานที่น่าสนใจให้แวะไปเยือนได้ไม่น้อยเช่นกัน ลองมาทำความรู้จักดินแดนเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 กันให้มากขึ้น
Hamad International Airport
ประตูบานแรกสู่ “กาตาร์” เป็นศูนย์กลางการคมนาคมระดับโลก และเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาประเทศได้เป็นอย่างดี นั่นคือ “ท่าอากาศยานนานาชาติฮาหมัด” ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของประเทศ
ความโดดเด่นของสนามบินที่สร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เกิดจากการใช้วัสดุเหลือทิ้งถมทะเลในอ่าวเปอร์เซีย นอกเหนือจากการเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกเหมือนห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาร์ตแกลเลอรี ขนาดใหญ่มารวมกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่สนามบินฮาหมัด แซงสนามบินชางงี ของสิงคโปร์ คว้าอันดับหนึ่งสนามบินที่ดีที่สุดในโลกมาได้สองปีซ้อนแล้ว (2021-2022) นอกจากนี้ สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ส ยังครองแชมป์เป็นอันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันถึง 7 ปี (จัดอันดับโดย Skytrax)
Museum of Islamic Art (MIA)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิสลาม ในกรุงโดฮา ไอคอนหลักของเมืองเปิดให้บริการในปี 2008 ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกระดับโลก “เป้ย อวี๋หมิง” หรือ I.M.Pei นักออกแบบอเมริกัน-ไชนีส ผู้มีมาสเตอร์พีซอย่างพีระมิดของพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส ดังนั้น Museum of Islamic Art จึงเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างอิสลามดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรมแห่งศตวรรษที่ 21 ด้วยรูปทรงเรขาคณิตแปลกตา
ภายในจัดแสดงแกลเลอรีงานศิลป์แขนงต่างๆจำนวน 16 ห้อง เป็นผลงานศิลปะรูปแบบมัลติมีเดียแสงสีเสียงน่าตื่นตาตื่นใจ โดยมีศิลปะวัตถุแสนอันวิจิตร เช่น เครื่องประดับ งานแกะสลัก งานกระเบื้อง พรมอาหรับ ฯลฯ ที่ฉายความวิจิตรของงานศิลป์อิสลาม พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพของอ่าวคอร์นิชที่ฉากหลังเรียงรายไปด้วยตึกสูงระฟ้า (ข้อมูลเพิ่มเติม: https://mia.org.qa/en)
The Pearl Island
เกาะไข่มุก เป็นเกาะเทียมที่สร้างขึ้นใหม่ มูลค่านับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ อาณาเขตเกือบ 4 ตารางกิโลเมตร ซึ่งหากมองจากมุมภาพถ่ายทางอากาศราวกับเป็นดินแดนแห่งโลกอนาคตในภาพยนตร์ไซ-ไฟ เต็มไปด้วยที่พักอาศัย โรงแรม ย่านช้อปปิง ร้านค้าสุดหรู
เกาะถูกสร้างขึ้นบนแหล่งดำน้ำดูไข่มุกที่สำคัญแห่งหนึ่งของกาตาร์ในอดีต แต่เมื่อถึงยุคปัจจุบันอุตสาหกรรมไข่มุกลดความนิยมลงไปและแทนที่ด้วยความร่ำรวยจากพลังงานน้ำมัน เกาะแห่งนี้จึงสื่อถึงอดีตอันรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมไข่มุก โดยที่นี่ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้อีกด้วย (ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.thepearlqatar.com)
Katara Cultural Village
หมู่บ้านวัฒนธรรมคาทาร่า ไม่ใช่หมู่บ้านเก่าแก่โบราณ แต่เป็นชุมชนสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบคล้ายศูนย์ศิลปวัฒนธรรม โดยรวมความหลากหลายไว้ทั้งพิพิธภัณฑ์ โรงละคร อัฒจันทร์คอนเสิร์ตกลางแจ้ง แหล่งพักผ่อนริมทะเล งานประติมากรรม ร้านค้า สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ฯลฯ
แนวคิดในการสร้างหมู่บ้านใหม่แห่งนี้ มุ่งหวังให้กาตาร์เป็นดั่งประภาคารแห่งศิลปะส่องสว่างในภูมิภาคตะวันออกกลาง ผ่านโรงละคร วรรณกรรม ดนตรี ทัศนศิลป์ การประชุมและนิทรรศการ เชื่อมวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเพื่อส่งเสริมมนุษยชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.katara.net)
Souq Waqif
ความหมายของ Souq หรือ Souk คือ ตลาด ซึ่ง “ซูค วากิฟ” คือตลาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของกาตาร์ แต่เดิมละแวกนี้เป็นตลาดเก่าแก่กว่าศตวรรษ เป็นย่านการค้าแลกเปลี่ยนตั้งแต่สมัยโบราณ แต่มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ ในปี 2006 แม้ทำให้ขาดกลิ่นอายเสน่ห์ตลาดโบราณไปบ้าง เพราะใหม่หมดจดทั้งหมด แต่ข้อดี คือ ตลาดมีความสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบมาก และการสร้างยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสไตล์กาตารีดั้งเดิมเอาไว้
ซูค แห่งนี้ถือเป็นสถานที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงสำหรับขาช้อป หรือแม้แต่คนชอบสำรวจวิถีแบบท้องถิ่น เพราะละลานตาไปด้วยร้านค้า ตรอกซอกซอยให้เดินชมได้ทั้งวัน จุดขายสำคัญ มีทั้งตลาดค้าทองคำ เครื่องประดับ แหล่งค้า( หรือไปชม)เหยี่ยว ซึ่งเป็นกีฬาพื้นเมืองในกาตาร์ โดยมี “Falcon Souq” โดยเฉพาะ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้เห็นเหยี่ยวเป็นๆที่น่าเกรงขาม ใกล้ๆกันยังมีคอกเลี้ยงม้า อูฐ ให้ชม
ร้านค้าใน ซูค วากิฟ มีสินค้าหลากหลายประเภททั้งที่ใช้งานได้จริง เอาไปตกแต่งเป็นที่ระลึก หรือของแปลกๆที่แวะไปชมเพลินๆ ปะปนไปด้วยงานฝีมือ อุปกรณ์ตกปลา อุปกรณ์งมไข่มุก ผ้าทอ พรม เฟอร์นิเจอร์ไม้ เครื่องประดับ เครื่องดนตรีท้องถิ่น ฯลฯ รวมทั้งมี “Souq Waqif Art Center” จัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่น
ส่วนใครที่สนใจเรื่องอาหารการกิน ก็ตามกลิ่นจัดๆไปยังโซนเครื่องเทศ อันเป็นจุดขายสำหรับกลิ่นหอมแบบอาหรับที่แปลกใหม่ เช่น หญ้าฝรั่น แซตเตอร์ ซูแมค ดอกไม้แห้ง มะนาวดำแห้ง อินทผาลัม น้ำผึ้ง ใบชา และเมล็ดกาแฟ เป็นต้น แล้วฝากท้องไว้กับร้านอาหารสไตล์ท้องถิ่นที่มีให้ลิ้มลองอยู่หลายจุด
Al Zubarah Archaeological Site
แหล่งโบราณคดี “อัล ซูบาราห์” ห่างจากโดฮา 105 กิโลเมตร คือ สถานที่หนึ่งเดียวในกาตาร์ที่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2013 ที่นี่เป็นเมืองโบราณก่อตั้งโดยพ่อค้าชาวคูเวตบริเวณชายฝั่งอ่าวเปอร์เซีย เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะศูนย์กลางการค้า โดยเฉพาะไข่มุกในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ถึงต้นศตวรรษที่ 19 ถือเป็นเส้นทางการค้าข้ามมหาสมุทรอินเดีย อาระเบีย และเอเชียตะวันตก ก่อนที่จะค่อยเสื่อมความรุ่งเรืองไปและถูกทิ้งร้างในช่วงต้นทศวรรษ 1900
กาลเวลากลบเมืองไปด้วยชั้นทรายที่พัดมาจากทะเลทราย จนกระทั่งมีการขุดค้นพบซากพระราชวัง ป้อมปราการ มัสยิด ถนน ลานบ้าน กระท่อมชาวประมง ท่าเรือ และกำแพง ที่นี่จึงเป็นแหล่งโบราณคดีปรากฏหลักฐานที่แสดงถึงการค้าและการดำน้ำหาไข่มุกซึ่งเป็นเศรษฐกิจสำคัญในเมืองชายฝั่งในอดีต นำไปสู่การพัฒนาเป็นรัฐอิสระขนาดเล็กที่เจริญรุ่งเรืองอยู่นอกการควบคุมภายใต้จักรวรรดิออตโตมัน ยุโรป หรือเปอร์เซีย
ข้อมูลเพิ่มเติม
การท่องเที่ยวในกาตาร์ มีสถานที่น่าสนใจทั้งในและนอกกระแสอีกหลายจุด เช่น การซื้อทัวร์ไปถ่ายรูป หรือกิจกรรมขับรถในทะเลทราย การล่องเรือชมอ่าว มัสยิดอันงดงาม พิพิธภัณฑ์-อาร์ตแกลเลอรี หอสมุดแห่งชาติ ย่าน Aspire Zone หรือ Doha Sports City ที่เป็นศูนย์กลางกีฬา รวมทั้งไปชมความอลังการของสนามฟุตบอลที่ใช้รองรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (ข้อมูลท่องเที่ยวเพิ่มเติม แนะนำที่ https://visitqatar.com)
นักท่องเที่ยวไทย สามารถพำนักในกาตาร์โดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้นาน 30 วัน
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline