อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เตรียมเปิดงานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) ประจำปี พ.ศ.2566 ระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 22 มีนาคม 2566 ให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ซึ่งเป็นงานประเพณีที่เปิดปีละครั้ง ระยะเวลา 2 เดือน ได้ขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในทุกวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ถึงแรม 15 ค่ำ เดือน 4 ของทุกปี ซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันที่ 22 มกราคม – 22 มีนาคม 2566
นายชวินทฐ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฏ เปิดเผยว่า ในทุก ๆ ปี ก่อนเริ่มเทศกาลนมัสการรอยพระบาทพลวง จังหวัดจันทบุรี จะมีพิธีบวงสรวง “ปิดป่า-เปิดเขา” ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 2 ปีนี้ ตรงกับวันที่ 20 มกราคม 2566 โดยมีพราหมณ์เป็นผู้ประกอบพิธี เริ่มต้นด้วยชุมนุมเทวดา อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่บนเขาพระบาทมาเป็นสักขีพยานรับเครื่องสังเวยขอให้ช่วยปกป้องอภิบาลรักษาผู้มานมัสการให้พ้นจากอันตราย และช่วยดลจิตผู้คิดไม่ดี ผู้กระทำชั่วให้ไม่อยากขึ้นไป และเมื่อเปิดให้สักการะครบ 2 เดือน ก็จะมีพิธีปิดพระบาท ในปีนี้พิธีบวงสรวง “เปิดป่า-ปิดเขา” ปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มีนาคม 2566 จะมีการบวงสรวงเหมือนพิธีเปิด กล่าวขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และคืนป่าให้กับสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณพระบาทพลวงแห่งนี้
การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาใน 1 วัน เริ่มตั้งแต่
ช่วงเวลา 0.00 น.-06.00 น.
ช่วงเวลา 06.00-12.00 น.
ช่วงเวลา 12.00-18.00 น.
และเวลา 18.00-24.00 น.
ทั้งนี้จำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละช่วงเวลา ประมาณ 6,000 คน โดยอุทยานฯ ได้พิจารณาตามขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่ คำนวณจากพื้นที่ใช้สอยบริเวณที่จัดงานประเพณี การจองขึ้นนมัสการฯ จะเปิดจองในแอปพลิเคชั่น KCKQue (พระบาทเขาพลวง) วันละ 4,500 คน /ช่วงเวลา และสำหรับผู้ที่จองหน้างาน 1,500 คน/ช่วงเวลา
การเดินทางขึ้นไปนมัสการ ประจำปี 2566 มี 2 วิธี คือ 1. ขึ้นรถ ที่คิวรถวัดกะทิง หรือคิวรถวัดพลวง 2. เดินเท้า โดยเดินทางหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ คก.1 (พระบาทพลวง) เดินทางบ้านแกลง ต.พลวง
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี โทร. 039 609 672
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ “>Youtube :Travel MGR และ “>Instagram : @travelfoodonline และ “>TikTok : @travelfoodonline