“น้อย วงพรู” รับเจอวิกฤติโควิด กระทบธุรกิจโรงแรมหนักสุดในชีวิต แต่ยังคงดูแลพนักงานเต็มที่ ถ้าโควิดกลับมาอีกรอบอาจจะต้องปิดตัวลง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก รวมถึงนักร้องหนุ่ม “น้อย วงพรู” ที่เจ้าตัวนั่งแท่นบริหารธุรกิจโรงแรม ในเครือของครอบครัว ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความลงเฟซบุ๊กว่า
“บางคนอาจไม่ทราบว่าน้อยสร้างโรงแรมหนึ่ง แต่ณตอนนี้น้อยวิ่งในโรงแรมที่ไม่มีแขกและร้องในห้องที่ไม่มีใคร นั้นไม่สำคัญหรอกครับ น้อยรู้ดีว่ามีคนที่เหนื่อยกว่ามหาศาล อย่างไรก็ตามน้อยหวังว่าพนักงานโรงแรมเราจะได้กลับมาอีกครั้ง และคนฟังเพลงก็จะได้จุงมือกันอีกครั้ง ในสุดท้ายไม่ว่างานคุณคืออะไร เราอยู่รอดไม่ได้ถ้าไม่มีกันและกัน”
โดยนักร้องหนุ่ม “น้อย วงพรู” ได้เปิดใจถึงผลกระทบที่ได้รับในครั้งนี้กับทีมข่าวว่า
“ถ้าเกิดเรื่องงานมันก็ศูนย์ ณ ตอนนี้ เพราะว่าโรงแรมเราก็ไม่มีแขกเลย นักร้องเราก็ร้องไม่ได้ งานแสดงก็อาจจะกลับมาได้บ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีครับ ก็เหมือนหลายๆคนในช่วงโควิดที่ทุกคนต้องพยายามอยู่รอด ก็ดูแลกันและกัน วิกฤติครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในชีวิตเลยครับ ผมว่าสำหรับทั่วโลกก็ไม่เคยมีใครเจอแบบนี้มาก่อนครับ”
ในฐานะนักธุรกิจ เป็นยังไงบ้าง?
“มันเกี่ยวกับสปิริตมากกว่า ของโรงแรม พนักงาน เราก็มี 5 โรงแรมใช่มั้ยครับ 2 โรงแรมที่กรุงเทพ 3 โรงแรมที่พัทยา และมีพนักงานพันคน เราจะพยุงทุกคนยังไง แล้วก็ดูแลสปิริตทีมเวิร์คของทีมเรายังไงครับ นั่นสำคัญที่สุดครับ แล้วเราก็ทราบว่าช่วงนี้รายได้ก็ไม่มีใช่มั้ยครับ แต่เราก็ยังพยายามดูแลพนักงานทุกคนอยู่ แต่ว่าถ้าเกิดมันเป็นอย่างนี้อีกหลายเดือน มันอาจจะถึงจุดที่ทุกคนจะต้องเหนื่อยมากกว่านี้ครับ อย่างโรงแรมที่พัทยาก็เปิดครับ แต่ไม่ทั้งหมด ก็ต้องทดลองดู ต้องลองเปิดมันจะได้ไม่รู้สึกว่าตาย มันก็ต้องลองเสี่ยงบ้าง แต่ว่าโรงแรมอย่างในกรุงเทพเปิดมันก็ไม่คุ้มจริงๆครับ ตอนแรกว่าจะเปิดเดือนกันยายน แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าอาจจะต้องเป็นตุลาแล้ว แต่เราก็เดาไม่ออกมันต้องแล้วแต่สถานการณ์วันต่อวัน”
มีการให้กำลังใจพนักงานยังไงบ้าง?
“กับพนักงานเราก็พยุงทุกคนนะครับช่วง 3-4 เดือนแล้ว แล้วเราก็มีโปรแกรมก็มีบางคนต้องลดเงินเดือนลง แต่พนักงานทุกคนก็เข้าใจ แล้วเราก็มีโปรแกรมให้พนักงานยืมเงินได้ แต่ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเหมือนธนาคาร ที่จะช่วยพนักงาน แล้วก็ทำให้เห็นว่าเราแคร์ทุกคนจริงๆ เมื่อเค้าเห็นเค้าก็อยากจะช่วยเรากลับมา ทุกคนต้องช่วยกันและกันแล้วครับ”
มีลดจำนวนพนักงานมั้ย?
“ตอนนี้ก็ต้องลดในระดับหนึ่งแล้ว เพราะมันจะ 4-5 เดือนแล้ว แต่ก็จะบอกคนๆนั้นว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็กลับมาได้นะ แต่ถ้าเราลดพนักงานเราก็จะมีเงินชดเชยให้ แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่เจ็บนะครับ และพนักงานส่วนใหญ่เกือบทุกคนเข้าใจนะครับ”
ถ้าสมมติมีการแพร่ระบาดอีกรอบสองจะทำยังไง?
“มันเดาไม่ออกจริงๆครับ ผมก็กลัวเหมือนกันนะ ผมพึ่งคุยกับครอบครัวนี่ขนาดทหารอียิปต์แค่คนเดียวนะ และถ้าต้องต้อนรับคนเป็นแสนๆเราจะควบคุมได้ยังไง แต่สุดท้ายแล้วธุรกิจท่องเที่ยวคือรายได้ของประเทศเรา 20 % นะครับ มันไม่ได้กระทบแค่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารทั่วไปก็โดน มันกระทบกันหมด เราจะอยู่ได้รึเปล่าถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว ผมก็เข้าใจนะครับบางคนไม่อยากเสี่ยง”
กระทบหนักมั้ยครั้งนี้?
“ก็เจ็บหนักครับ ไม่เคยเจ็บขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มันศูนย์นะครับมันไม่มีรายได้อะไรเลย แล้วเราก็ต้องกู้เงินกับธนาคารด้วย เพื่อนำมาจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน แต่ก็มีคนเจ็บหนักกว่าผมนะครับ”
รู้สึกท้อใจบ้างมั้ย?
“ผมว่าเหมือนตัวจะชนกำแพงแล้ว แต่ยังไม่ได้ชนนะ ยังมีแสงสว่างปลายปี ธุรกิจครอบครัวก็ยังพอไหวนะครับ แต่ถ้ามันยาวขึ้นมันก็ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่าง อาจจะต้องปิดโรงแรมไปเลยรึเปล่า ตอนนี้เรายังไหวอยู่ แต่เราก็ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตนะครับ”
ขอบคุณภาพ Facebook NOi Pru
เกาะติดข่าวบันเทิงที่นี่
Facebook : True Inside HD
Twitter : true_insidenews
Youtube Official : TrueVisionsOfficial
Instagram : True_insidenews
Website: www.TNNThailand.com
True Visions 02-700-8000