เผยแพร่:
ปรับปรุง:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ผู้ว่าฯ โคราชควงผู้การตำรวจและวัฒนธรรมจังหวัดฯ ตรวจสถานที่เตรียมพร้อมรับมือการขอขมาย่าโม-ย่าบุญเหลือ ของ 3 พิธีกร “ช่องส่องผี” ย้ำระดมตำรวจ 150 นายคุมเข้มทั้ง 2 จุด วอนชาวโคราชรอดูอยู่บ้าน เผยเร่งดำเนินคดีสอบแล้ว 50 ปาก นำมติ กสทช.-การขอขมาเข้าสำนวนด้วย
วันนี้ (18 ก.ค.) ความคืบหน้ากรณีรายการช่องส่องผี ดำเนินรายการโดย บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ, อ.เรนนี่ สุระประภา คำขจร และ เจมส์ ศราวุฒิ วรพัทธ์ทวีโชติ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง อ้างมีจิตสัมผัสต่อสิ่งลี้ลับ กล่าวหา นางสาวบุญเหลือ วีรสตรีที่ร่วมกับท้าวสุรนารี (ย่าโม) กอบกู้เมืองโคราช เป็นเมียอีกคนหนึ่งของปลัดทองคำ (เจ้าพระยามหิศราธิบดี สามีย่าโม) ส่วนย่าโมเป็นเมียหลัก แม่บุญเหลือเป็นเมียสองไม่ใช่ลูกสาวบุญธรรม จนเกิดกระแสต่อต้านว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลประวัติศาสตร์และลบหลู่ดูหมิ่นวีรสตรีกอบกู้เมืองโคราช นำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และเรียกร้องให้มาขอขมาย่าโมและย่าบุญเหลือ ที่ จ.นครราชสีมา ต่อมาผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีได้ประสานมายังผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาว่าจะเดินทางมาทำพิธีขอขมาในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เวลา 14.00 น. ทั้ง 2 จุด คือ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และวัดศาลาลอย สถานที่บรรจุอัฐิย่าโมซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำบันทึกรายการโทรทัศน์นั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายของวันนี้ (18 ก.ค.) ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา, นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัด และ นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาด จ.นครราชสีมา รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันถวายพานเครื่องสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถวายพวงมาลัยดอกดาวเรือง ธูปเทียน ปิดแผ่นทอง
พร้อมทั้งตรวจความพร้อมของสถานที่ที่ผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีจะเดินทางมาขอขมาลาโทษย่าโมในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) เวลา 14.00 น. โดยมีการตั้งเต็นท์ไว้ข้างลานอนุสาวรีย์ย่าโม สำหรับรองรับตัวแทนส่วนราชการ กลุ่มพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมาที่จะมาเป็นสักขีพยานและร่วมสังเกตการณ์ในการขอขมาครั้งนี้ ซึ่งจะมีการเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน การตรวจวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ด้วย โดยเฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในบริเวณประกอบพิธี พร้อมได้เตรียมจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย ทั้ง 2 จุด รวม 150 นาย
จากนั้น นายวิเชียร พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังวัดศาลาลอย เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ถวายพานเครื่องสักการะ ธูปเทียน พวงมาลัยดอกดาวเรือง และปิดแผ่นทอง องค์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) และรูปปั้นคุณย่าบุญเหลือที่อยู่ใกล้กัน ก่อนไปกราบไหว้รูปปั้นปลัดทองคำ สามีคุณย่าโม ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ดำเนินรายการมาถ่ายทำรายการ พร้อมตรวจสถานที่เตรียมความพร้อมการจัดพิธีขอขมา โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังทุกจุดและจัดทางเข้า-ออก ทางเดียวเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำเครื่องมืออุปกรณ์การวัดอุณหภูมิ การลงทะเบียนไทยชนะ และเจลล้างมือ มาให้บริการ และให้ทุกคนสวมหน้ากากตลอดเวลา และได้ตั้งเต็นท์ไว้หน้าเจดีย์บรรจุอัฐิคุณย่าโม-คุณย่าบุญเหลือ
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯ นครราชสีมา กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยส่วนราชการมาสักการะบอกกล่าวคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือว่า ทีมงานช่องส่องผีที่ได้ทำผิดพลาดไปในการกล่าวถึงประวัติของคุณย่าโมคุณย่าบุญเหลือ และทำให้พี่น้องประชาชนลูกหลานไม่สบายใจ จะมาทำพิธีขอขมาลาโทษในวันพรุ่งนี้ และขอให้ดวงวิญญาณของคุณย่าโมคุณย่าบุญเหลือและบรรพบุรุษ ดวงวิญญาณของวีรชนทุ่งสัมฤทธิ์ได้อภัยให้พวกเขา และขอให้พี่น้องชาว จ.นครราชสีมาและพี่น้องคนไทยมีความรักสมัครสมานสามัคคีกันเหมือนเดิมและมีแต่ความเป็นสิริมงคล ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยากให้การขอขมาลาโทษเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และถือโอกาสนำส่วนราชการที่รับผิดชอบมาตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยด้วย
วันพรุ่งนี้ทางตำรวจจะจัดระเบียบเพื่อการขอขมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยรูปแบบจะมีการตั้งเครื่องบวงสรวงด้านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) และที่วัดศาลาลอย ตั้งด้านหน้าเจดีย์บรรจุสถูปอัฐิคุณย่าโม-คุณย่าบุญเหลือ และพระยาปลัดทองคำ โดยจะมีพราหมณ์ 4-5 คนที่นำประกอบพิธีบวงสรวงท้าวสุรนารีเป็นประจำ จะนำคณะของผู้มาขอขมาลาโทษทำพิธีสักการะก่อน หลังจากนั้นผู้มาขอขมาลาโทษจะอ่านคำขอขมาลาโทษให้พี่น้องประชาชนตัวแทนทุกกลุ่มได้ยินกันทั่วบริเวณผ่านเครื่องขยายเสียง โดยด้านบนลานหน้าอนุสาวรีย์ย่าโมจะไม่มีพี่น้องประชาชนขึ้นไป ยกเว้นคณะพราหมณ์กับทีมผู้มาขอขมาลาโทษ และทั้งสองจุดพิธีจะเป็นแบบเดียวกันตามกระบวนการตามวัฒนธรรมประเพณีของชาว จ.นครราชสีมาที่ใช้ในการขอขมาลาโทษหรือบวงสรวงคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือ ส่วนราชการจะอำนวยความสะดวกเท่านั้น จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
สำหรับคำกล่าวขอมาลาโทษ ทางบ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ได้ส่งร่างมาให้ทางจังหวัดฯดูแล้ว เนื้อหาสาระคำกล่าวขอขมาลาโทษนั้นสรุปได้ว่า ทางคณะได้ดำเนินการจัดรายการไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พูดออกไปก่อให้เกิดการจาบจ้วงหรือกระทบกระทั่งเกียรติภูมิของท่านท้าวสุรนารีและคุณย่าบุญเหลือ ทางคณะได้มากราบขออภัยต่อดวงวิญญาณท่านทั้งสอง ต่อความรู้สึกของลูกหลานพี่น้องประชาชนชาว จ.นครราชสีมา โดยเราขอให้คุณเรนนี่เป็นคนกล่าวนำการขอขมาลาโทษ และผู้ดำเนินรายการยืนยันแล้วว่าจะมาครบทั้ง 3 คน ส่วนการลบคลิปในช่องยูทูปนั้นขอยืนยันว่าจะต้องลบออกให้หมด
“การขอขมาลาโทษแบบนี้ที่ จ.นครราชสีมาเกิดขึ้นไม่บ่อย หรือแทบจะไม่มีเลย ปกติแล้วมีแต่การบวงสรวง ณ บริเวณหน้าอนุสาวรีย์ย่าโมเป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่มาบนบานแล้วประสบผลสำเร็จ และกรณีที่ส่วนราชการจัดกิจกรรมสำคัญๆ หรืองานประจำปี ก็มาบวงสรวง ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ค่อยมีคนพูดจาจาบจ้วงจนต้องมากราบขอขมาย่าโม ย่าบุญเหลือ เพราะทุกคนรักเคารพศรัทธาและเชื่อในพลังบารมีคุณย่าโมคุณย่าบุญเหลือ ส่วนครั้งนี้ถือว่าเป็นแรก” นายวิเชียรกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา กล่าวว่า การขอขมาพรุ่งนี้ หน้าที่สำคัญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือการดูแลความเรียบร้อย ซึ่งได้มีการประชุมเตรียมความพร้อม 2-3 ครั้ง เพราะเราต้องตั้งการ์ดสูงไว้ก่อน และสื่อเองก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้มีการถ่ายทอดสดอยู่แล้ว ฉะนั้นขอให้ประชาชนชาวโคราชอยู่ที่บ้าน เพราะในการจะเข้ามาร่วมพิธีต้องจัดระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากาก ตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน ไม่มี VIP ซึ่งระยะเวลาทำการขอขมาคงไม่นาน และเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยความราบรื่น เราได้จัด กำลังตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ 150 นายมาดูแล
ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ดำเนินรายการช่องส่องผีตามที่มีกลุ่มต่างๆ ร้องทุกข์กล่าวโทษนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบปากคำไปได้กว่า 50 ปากแล้ว ซึ่งการดำเนินคดีนั้นมีระยะเวลามีขั้นตอนอยู่ ตำรวจไม่หนักใจอะไร ทำไปตามขั้นตอนและมันชัดเจนอยู่แล้วเพราะมีหลักฐานปรากฏอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบตัวแทนกลุ่มผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษทั้ง 3 กลุ่มให้ครบถ้วน รวมทั้งจะนำมติผลการพิจารณาของ กสทช. และ การขอขมาลาโทษของผู้ดำเนินรายการทั้ง 3 คนในครั้งนี้นำมาประกอบสำนวนในการดำเนินคดีด้วย