“พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ สร้างนักกีฬาที่แข็งแกร่ง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งกวาดเหรียญซีเกมส์จนผงาดเป็นเจ้าเหรียญทอง
วันที่ 15 ก.ค. 63 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ที่สนามเวลโลโดรม หัวหมาก เมื่อวันที่ 15 ก.ค. โดยมี พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายบริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ, พนักงาน กกท. ให้การต้อนรับ
จากนั้น นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ นำ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เข้าสู่ห้องเกียรติภูมิจักรยานไทย เพื่อสักการะรูปปั้น อาจารย์เสรี ไตรรัตน์ บิดาจักรยานไทย และสักการะรูปปั้น นายปรีดา จุลละมณฑล ราชาเหรียญทองจักรยานไทย ก่อนจะชมวีดิทัศน์ผลงานของนักกีฬาจักรยาน โดยมี “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอกวิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนจักรยานทีมชาติไทย รายงานแผนการฝึกซ้อมและการเตรียมตัวของ “บีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นประเภทถนนหญิง ที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งความหวังในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นประเภทลู่ คีรินประชาชนชาย และการฝึกซ้อมของนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยทั้งระบบ
ด้าน “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงานแก่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดแผนการฝึกซ้อมให้นักกีฬามาโดยตลอด แม้แต่ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เราก็ไม่ได้หยุดพัก ยังให้นักกีฬาฝึกซ้อมอยู่ที่บ้าน โดยมีโครงการ “ปั่นในบ้าน ต้านโควิด” ซึ่งเป็นการขี่จักรยานแบบ E-Cycling กับแอปพลิเคชัน Zwift (สวิฟท์) ทำให้นักกีฬาสามารถรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา เห็นได้จากการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “ควีนส์สิริกิติ์” ประจำปี 2563 แบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สนามที่ 1 ที่สนามเวลโลโดรม หัวหมาก เมื่อวันที่ 10-12 ก.ค. ที่ผ่านมา ทั้งจุฑาธิป และ จาย ต่างก็ทำลายสถิติเดิมได้ทั้งสองคน ไม่รวมกับนักปั่นเยาวชนที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิปิกเกมส์สมัยใหม่ นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 4 สมัยติดต่อกัน เริ่มจากโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ร้อยเอกหญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน ได้สิทธิ์แข่งขันประเภทถนนหญิง จากนั้นอีก 3 สมัย ได้จาก ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ประกอบด้วย โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล และล่าสุดคือ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้น จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นปนระเภทลู่ คีริน ยังเป็นตัวสำรองอันดับ 1 ที่มีโอกาสเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียวเกมส์” เนื่องจากมีคะแนนรวมอันดับดีที่สุด อย่างไรก็ตาม จาย ยังเป็นนักกีฬาความหวังที่จะได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รวมไปถึงทีมสปรินท์ รุ่นประชาชนชาย ที่มี จาย อังสุธาสาวิทย์, จ.ท.วรยุทธ คะปัญญา และ ส.อ.จาตุรงค์ นิวันติ
นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าวต่อไปว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้วางแผนการพัฒนาทั้งระบบ โดยสร้างนักปั่นรุ่นยุวชน เยาวชน และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ขึ้นมาทดแทนกันรุ่นต่อรุ่น มีการสร้างศูนย์ฝึกกระจายไปตามภาคต่าง ๆ เช่น ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก, ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ วัดดงน้อย จ.ลพบุรี, ศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ สุราษฎร์ธานี เป็นต้น ซึ่งทุกศูนย์ได้สร้างนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมามากมาย รวมทั้งนักกีฬาชาติพันธุ์อย่าง นายพลวัต แซ่เฮ้อ เด็กชาวเขาเผ่ามูเซอ ของศูนย์ฝึกฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ กองบิน 46 พิษณุโลก ก็เป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่มีอนาคตไกล
ด้าน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขอขอบคุณที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ทำวีดิทัศน์แสดงผลงานของนักกีฬาให้ชม สมัยก่อนตนเคยดูผลงานของ นายปรีดา จุลละมณฑล แล้วคิดว่าประเทศไทยน่าจะมีนักกีฬาเก่งๆ แบบนี้หลายๆ คน แต่หลังจากนั้นผลงานของนักกีฬาจักรยานก็ขาดหายไป การที่มี จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ในวันนี้น่าจะทำให้คนไทยมีความหวังอีกครั้ง ในการที่จะได้แชมป์เวิลด์คัพ หรือได้เหรียญรางวัลโอลิมปิกเกมส์ ตนเอง และ ผู้ว่าการ กกท. พร้อมสนับสนุนเต็มที่ ขอให้ท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ สร้างนักกีฬารุ่นสู่รุ่น ในอนาคตเราน่าจะมีนักกีฬาจักรยานที่เก่งๆ ทั้งประเภทลู่, ถนน, เสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ ได้ไปขึ้นแท่นรับรางวัลในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์
ต่อจากนั้น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ มานั่งที่อัฒจันทร์เพื่อชมการปั่นโชว์จาก “บีซ” ร.ท.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ และ ทีมสปรินท์ รุ่นประชาชนชาย นักกีฬาประกอบด้วย จาย อังสุธาสาวิทย์, จ.ท.วรยุทธ คะปัญญา และ ส.อ.จาตุรงค์ นิวันติ ก่อนที่จะลงไปในลู่แข่งขันเพื่อให้โอวาทแก่นักกีฬา และชมการฝึกซ้อมของนักกีฬา
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวกับนักกีฬาว่า ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่สร้างนักกีฬาที่แข็งแกร่งและมีฝีมือให้กับประเทศไทย ซึ่งในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เราได้เป็นเจ้าเหรียญทองของกีฬาจักรยาน โดยได้มา 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ต้องขอชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นอย่างมาก ในอนาคต ตนอยากจะเห็นนักปั่นไทยขึ้นไปยืนรับเหรียญรางวัลในกีฬาเอเชี่ยนเกม์ และโอลิมปิกเกมส์ ส่วนจะได้อันดับที่เท่าไหร่ไม่สำคัญ ขอเพียงแต่ทำให้เต็มที่และสุดความสามารถ และมีระเบียบวินัยในการฝึกซ้อม นักกีฬาที่ขาดระเบียบวินัยคงยากที่จะประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นเวลาแข่งก็ต้องมีสมาธิ
“ผมไปเยี่ยมนักกีฬามาหลายๆ สมาคม ต้องขอชื่นชมสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นอย่างมากที่สร้างผลงานให้กับประเทศชาติมาโดยตลอด ผมเอง และผู้ว่าการ กกท. พร้อมจะสนับสนุนสมาคมกีฬาอย่างเต็มที่ ในส่วนของสมาคมกีฬาจักรยานฯ หากมีอะไรขาดตกบกพร่อง ก็มาหารือกับผมได้ ผมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเป็นการส่วนตัว เช่น หาสปอนเซอร์เข้ามาเสริม หรือจัดหารางวัลตอบแทนผลงานนักกีฬา ขอเพียงให้ท่านนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ประสานมา ซึ่งตอนนี้ผมก็เป็นสปอนเซอร์ให้กับสโมสรฟุตบอล พีที ประจวบ เอฟซี ผมขอเป็นกำลังใจให้กับ พลเอกเดชา เหมกระศรี รวมทั้งนักกีฬา และสตาฟฟ์โค้ชทุกคน หวังว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะพัฒนานักกีฬาให้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยยิ่งๆ ขึ้นไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน “บีซ” จุฑาธิป กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนของนักกีฬาจักรยานทุกคน ขอสัญญากับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการทอ่งเที่ยวและกีฬา ว่าจะตั้งใจฝึกซ้อม และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงของสมาคมกีฬาจักรยานฯ และประเทศชาติ.