สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกโตโยต้า ไทยลีก ร่วมกับ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) หรือ ไทย-เดนมาร์ค จัดการแข่งขันฟุตบอล ไทย-เดนมาร์ค ยู-15 ฟุตบอล ทัวร์นาเมนท์ 2020 (THAI-DENMARK U15 FOOTBALL TOURNAMENT 2020) ปีที่ 2 เพื่อสานต่อการพัฒนาวงการลูกหนังไทย โดยเริ่มรอบคัดเลือก 6 ภูมิภาคทั่วไทย เพื่อลุ้นถ้วยแชมป์ และชิงเงินรางวัล 1 แสนบาท
ภายในงานแถลงข่าวประกอบด้วย นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อํานวยการ ทําการแทนผู้อํานวยการ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ผู้ผลิตและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เป็นประธานการแถลงข่าว
พร้อมด้วยนายปิยศักดิ์ ภูมิจิตร กรรมการผู้จัดการสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด “โค้ชง้วน” นายสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อํานวยการฟุตบอลสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชน และ 2 นักเตะของสโมสรฯอย่าง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ สารัช อยู่เย็น มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ
Editor Picks
- โรนัลโด้, ปีร์โล นำทัพ! รวมแข้งดังไม่ประสบความสำเร็จกับ อินเตอร์ มิลาน
- รวมทุกเรื่องราวควรรู้ก่อนไทยลีกคิกออฟหลังโควิด-19
- RANK IT UP : 20 สุดยอดกองหลังจอมซัลโว
- รวมทุกเรื่องราวควรรู้ก่อนศึก ACL หลังเบรกโควิด-19
ด้าน สุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ กล่าวว่า “สําหรับการแข่งขันในปีนี้ มีความพิเศษที่เพิ่มขึ้นโดย ไทย-เดนมาร์ค และพันธมิตรอย่างสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ร่วมกันบูรณาการพัฒนากีฬาฟุตบอลให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างยั่งยืนโดยเน้นที่ระดับโรงเรียน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ครู นักเรียน และเยาวชน ผ่านโครงการต่างๆ ในปีนี้ ซึ่งจัดการแข่งขันเป็นปีที่ 2 เพื่อให้กีฬาฟุตบอลก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจ”
“สําหรับเยาวชนไทย และต่อยอดไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต เรามองว่าฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของเยาวชนไทย จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นสื่อกลาง นําผลิตภัณฑ์ นมไทย-เดนมาร์ค เข้าถึงกลุ่มครอบครัวและเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ อีกทั้งอยากให้โครงการนี้เป็นทัวร์นาเมนต์แรกๆ หลังจากที่ทางรัฐบาลปลดล็อกเพื่อการผ่อนปรนกิจกรรมและกิจการในประเทศจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) และอยากให้การแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ เป็นการเปิดเวทีให้เยาวชนได้ประลองฝีเท้า เฟ้นหาศักยภาพตัวเอง เพื่อที่จะยกระดับเยาวชนในโรงเรียน ให้ทุกๆ โรงเรียนได้มีโอกาสแข่งขันฟุตบอลอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไปพร้อมกับการดื่มนมไทย-เดนมาร์ค เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ผลิตจากนํ้านมโคแท้ 100% ไม่ผสมนมผงและเรายินดี เป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนสนับสนุนให้เยาวชนได้เดินตามฝันอย่างภาคภูมิใจ”
ด้าน ปิยศักดิ์ ภูมิจิตร กรรมการผู้จัดการสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า “นมไทย-เดนมาร์ค กับ สโมสรฯ มีความตั้งใจที่จะพัฒนากีฬาฟุตบอลตั้งแต่ต้นนํ้าไปจนถึงปลายนํ้า และจากความสําเร็จในการจัดการแข่งขันในปีแรกที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามและมีบางโรงเรียนสมัครในรอบคัดเลือกไม่ทัน ทําให้การจัดการแข่งขันในปีนี้ มีการขยายพื้นที่โซนกรุงเทพและปริมณฑล ที่จะจัดขึ้นที่สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และเพิ่มจํานวนทีมในการรับสมัครในแต่ละภูมิภาคเป็น 32 ทีม รวมทุกภูมิภาคเป็นจํานวน 192 ทีมอีกด้วย และด้วยความร่วมมือ ระหว่าง นมไทย-เดนมาร์ค กับ สโมสรฯ จึงทําให้มีการขยายโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ ต้องขอขอบคุณพันธมิตรของสโมสรฯ อย่างนมไทย-เดนมาร์ค ที่เชื่อมั่นในสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทําให้เกิดโครงการนี้ขึ้น และอยากให้เป็นเวทีแห่งโอกาสระดับประเทศที่โรงเรียนต่างๆ จะได้เข้ามาแข่งขันกันแต่สิ่งสําคัญของโครงการนี้ คือการที่สโมสรฯได้สร้างสรรค์กิจกรรมด้านกีฬาให้กับชุมชนในแต่ละภูมิภาคที่จะมีโครงการร่วมกับโรงเรียนในจังหวัดต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในสังคมไทย และสโมสรฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดีๆอย่างนี้จะมีขึ้นทุกๆปี เราพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาเยาวชนไทยในด้านกีฬาทุกประเภทต่อไปครับ”
ขณะที่ “โค้ชง้วน” นายสุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ผู้อํานวยการฟุตบอลสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กล่าวว่า “นอกจากการแข่งขันฟุตบอลแล้วฝ่ายจัดการแข่งขัน ยังจัดกิจกรรมเสริมขึ้นมาเป็นพิเศษ ด้วยการจัดอบรมผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตบอลให้กับบุคลากรครูในโรงเรียนต่างๆ ในเครือของนมไทย-เดนมาร์ค เพื่ออบรมคณะครู ให้มีทักษะการฝึกสอนฟุตบอลขั้นพื้นฐานแก่เยาวชนในสถานศึกษา โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับประกาศนียบัตรจากสมาคมฟุตบอลฯซึ่งสามารถนําไปประกอบวิชาชีพในการฝึกสอนเยาวชนระดับพื้นฐานได้และสามารถต่อยอดเข้าอบรมในหลักสูตร AFC ‘C’ Coaching Certificate Course ได้อีกด้วย”
“ทั้งนี้แน่นอนว่าการจัดการแข่งขันในปีนี้ จะเป็นการจัดแข่งขันในรูปแบบใหม่ (New Normal) ซึ่งสโมสรฯยังคํานึงถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเราร่วมมือกับสํานักงานภาคของ อ.ส.ค. ที่จะจัดการแข่งขันโดยลดความแออัดภายในสนาม ยึดกฎระเบียบของกกท. และภาครัฐที่ประกาศออกมาเป็นหลัก และจัดระบบการแข่งขัน ที่ไม่ให้โรงเรียนนํานักกีฬาเยาวชน เข้ามาแข่งขัน รวมกลุ่มเป็นจํานวนเกินกว่าที่รัฐบาลกําหนด โดยมาตรการนี้เราจะดําเนินการอย่างรัดกุม และเข้มงวดในการจัดแข่งขันต่อไป”
สำหรับโครงการ “Thai-Denmark U15 Football Tournament” ปีที่ 2 เปิดรับสมัครตั้งแต่ วันที่ 20 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม 2563