วิกฤตโควิด-19 ทำให้วิถีชีวิตของผู้คน รวมถึงพฤติกรรมการบริโภค วิธีและสถานที่ในการเลือกรับประทานอาหารต่างเปลี่ยนแปลงไป ร้านอาหารหลายแห่งต้องปิดตัวหรือเปิดใหม่โดยมีกำลังการผลิตที่ลดลง เมื่อการระบาดระลอกสองเริ่มขึ้นและผู้คนต้องกลับไปอยู่บ้านอีกครั้ง จึงทำให้ความต้องการบริการอาหารเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
คิชิน อาร์เค อายุ 36 ปี ทายาทของ ราช กุมาร์ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสิงค์โปร์ หันมาสร้างเครือข่ายธุรกิจครัวคลาวด์ทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อเจาะตลาดส่งอาหารตามบ้านที่กำลังมาแรงและทำกำไรสูง
รายได้จากครัวคลาวด์ทั่วโลกในปี 2027 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับรายได้เมื่อปีที่แล้วที่มีมูลค่า 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ครัวกลางช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถรังสรรค์เมนูที่หลากหลายเพื่อขยายธุรกิจสู่การจัดส่งอาหาร หรือแม้แต่ผู้ประกอบการที่ขายผ่านแอพลิเคชั่นออนไลน์โดยไม่มีหน้าร้าน นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดต้นทุนกว่าการทำร้านอาหารที่ต้องมีที่นั่งรับประทานและมีพนักงานเสิร์ฟคอยให้บริการลูกค้า และครัวกลางยังสามารถตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมในย่านที่มีราคาถูก ไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่ในทำเลที่มีราคาแพงอย่างร้านอาหาร
คิชิน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท ทิฟฟินแลบส์ ร่วมกับหุ้นส่วนอีกสามคนเมื่อต้นปี 2019 มองว่าการลงทุนในครัวคลาวด์ถือเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยมุมมองที่แตกต่าง และยังสามารถสร้างรายได้จากทำเลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือเหมาะสมกับธุรกิจอื่นอีกต่อไป
ทิฟฟินแลบส์มีแนวคิดที่จะดำเนินธุรกิจที่แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ บริษัทจะเช่าพื้นที่ครัวในร้านอาหารและบริษัทเคเทอริ่ง มีข้อตกลงการแบ่งส่วนรายได้ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่เป็นแบรนด์ของบริษัท โดยบริษัทจะจ้างเชฟและพนักงานประจำครัว ข้อดีของวิธีนี้คือบริษัทสามารถใช้ทีมงานผลิตอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้งอาหารอิตาเลียน อาหารจีน และอาหารอินเดียได้จากที่เดียวกัน
ครัวกลางแห่งแรกของทิฟฟินแลบส์จะเปิดตัวในไตรมาสที่สี่ และบริษัทวางแผนที่จะรวบรวมร้านอาหารทั้งหมด 30 แห่ง ซึ่งเสิร์ฟอาหาร 15 ประเภท และมีสาขาใน 10 ประเทศภายใน 1 ปีข้างหน้า โดยทิฟฟินส์แลบส์มุ่งหวังที่จะจับมือกับแพลตฟอร์มส่งอาหารที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้วอย่าง แกร็บ อูเบอร์อีท และฟู๊ดแพนด้า