ทีเอ็มบี ต่อยอดความสำเร็จพัฒนาบัตรเครดิตน้ำมัน “ฟลีทการ์ด” (Fleet Card) ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อควบคุมและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่ การตรวจสอบวงเงินคงเหลือผ่านระบบ USSD เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ถือบัตรได้ทันทีแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง สะดวก คล่องตัว ใช้งานง่าย
นางกนกพร จูฑา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีเอ็มบีถือได้ว่าเป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาดิจิทัลโซลูชัน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงเล็งเห็นความสำคัญที่จะช่วยลูกค้าธุรกิจหาทางบริหารต้นทุนและจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
จึงเป็นที่มาของการพัฒนาต่อยอด โซลูชันบัตรเครดิตน้ำมัน หรือ ฟลีทการ์ด โดยบัตรเครดิตน้ำมันเป็นโซลูชันที่ช่วยบริหารจัดการ พร้อมควบคุมค่าใช้จ่ายน้ำมันและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ หรือรถทุกชนิดเพื่อการใช้งานธุรกิจ ซึ่งบริษัทสามารถให้พนักงานใช้บัตรเครดิตน้ำมันชำระเงินค่าน้ำมันแทนเงินสด
โดยโซลูชันบัตรเครดิตน้ำมันนี้ สามารถเลือกชนิดของน้ำมันให้เหมาะสมกับรถยนต์แต่ละชนิด สามารถควบคุมการใช้น้ำมันของรถทุกชนิด ได้ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน สามารถกำหนดสถานีบริการน้ำมัน รวมถึงสามารถจำกัดวงเงิน หรือปริมาณในการเติมน้ำมันในแต่ละครั้ง และสามารถเรียกดูรายงานการใช้น้ำมันแบบออนไลน์ผ่าน Portal ของธนาคารที่มีไว้บริการลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ
เพื่อจัดการและตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้เป็นรายวัน และที่สำคัญบัตรเครดิตน้ำมันฟลีทการ์ดยังช่วยป้องกันการทุจริตเพราะไม่ใช้เงินสด ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการเบิกเงิน และการกระทบยอดบัญชีของบริษัทอีกด้วย
พร้อมกันนี้ ขอแนะนำฟีเจอร์ใหม่ ที่เพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการใช้งาน ด้วยระบบ USSD ที่สามารถ สอบถามวงเงินคงเหลือแบบเรียลไทม์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อรับข้อมูลวงเงินคงเหลือได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
โดยปัจจุบันบัตรเครดิตน้ำมันของทีเอ็มบีถือว่ารองรับสถานีน้ำมันได้ครบที่สุด ลูกค้าธุรกิจสามารถเลือกใช้ได้ที่สถานีบริการน้ำมันชั้นนำของไทย ได้แก่ เอสโซ่ ปตท. เชลล์ และบางจาก ซึ่งครอบคลุมพื้นที่บริการทั่วประเทศ
“โซลูชันบัตรเครดิตน้ำมันจากทีเอ็มบี ถือเป็นคำตอบสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบัน และสอดรับกลยุทธ์ของทีเอ็มบี ในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจ ปัจจุบันมีลูกค้าธุรกิจกว่า 3,000 รายพร้อมบัตรน้ำมันกว่า 200,000 ใบที่ใช้บริการบัตรเครดิตน้ำมันของเราอยู่
โดยกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด คือ กลุ่มลูกค้าธุรกิจประเภทโลจิสติกส์ที่เน้นเรื่องบริการขนส่งหรือมีการขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทรวมถาวรขนส่ง และ บริษัทแฟลช เอ็กซ์เพรส ที่ให้การบริการขนส่งแบบเดลิเวอรี การขนส่งหรือการกระจายสินค้าระหว่างภูมิภาคหรือระหว่างจังหวัด ที่ต้องการความสะดวกจากสถานีบริการน้ำมันที่ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจ และจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการขนส่ง
อีกทั้งรวมไปถึงกลุ่มโตโยต้า ที่ใช้โซลูชันบัตรเครดิตน้ำมันของทีเอ็มบีในการบริหารจัดการรถยนต์สำหรับผู้บริหารภายในกลุ่มฯ การขนส่งชิ้นส่วนของรถยนต์ และการขนส่งรถยนต์ให้กับตัวแทนจำหน่ายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเราเชื่อว่าโซลูชันบัตรเครดิตน้ำมันนี้จะมีประโยชน์อย่างแท้จริงและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นางกนกพร กล่าวสรุป