เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
พ่อเฒ่าวัย 71 ปี ยืนกรานไม่ได้ลวงเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ไปทำอนาจารและขืนใจในบ้านอ้างรักเอ็นดูเหมือนลูกหลาน อายุมากไฟราคะมอดแล้วนานหลายปี พร้อมให้ตรวจร่ายกายและต่อสู้คดีขณะที่ญาติเด็กหญิงมั่นใจหลานพูดความจริง จะเอาเรื่องถึงที่สุด
จากกรณีนางเอ(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ชาว ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พร้อมญาติๆพาเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหลานสาวเข้าร้องทุกข์กับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงานยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมือง
โดยระบุว่า หลานสาววัย 8 ขวบ ถูกชายสูงวัยอายุ 71 ปี ในหมู่บ้านเดียวกันหลอกเรียกไปเอาเงินซื้อขนม แต่กลับพาเข้าบ้าน จูบปากเด็ก จับแก้ผ้า บังคับจับอวัยวะเพศ และข่มขืนเด็ก โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้( 24 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านหนึ่งใน ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของยายเด็กหญิงวัย 8 ขวบ พบว่า มีญาติและเพื่อนบ้านต่างพากันนั่งพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมกับพาไปดูจุดเกิดเหตุบริเวณศูนย์ทอผ้าชุมชน ซึ่งอยู่กลางหมู่บ้าน ห่างจากบ้านผู้เสียหายราว 500 เมตร และอยู่ใกล้กับบ้านของชายวัย 71 ปีที่ถูกกล่าวหา
นางเอ(นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ยายเด็กหญิงวัย 8 ขวบ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนได้ไปทอเสื่อที่ศูนย์ทอผ้าชุมชนที่อยู่กลางหมู่บ้าน ส่วนหลานสาวก็วิ่งเล่นกับเพื่อนอยู่ข้างนอก กระทั่งได้ยินเสียงร้องไห้ ทีแรกก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเด็กร้องไห้หยอกล้อกันตามประสา จนต่อมาเด็กมีอาการปวดท้อง เจ็บอวัยวะเพศ และผิดสังเกตซึมเศร้า และมาทราบภายหลังที่หลานมาเล่าให้ฟังว่าถูกชายสูงวัยอายุ 71 ปี
ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กับศูนย์ทอผ้าจุดที่หลานวิ่งเล่น เรียกให้ไปเอาเงิน 20 บาทเพื่อซื้อขนม ก่อนที่จะดึงตัวเข้าไปในบ้านจูบปาก จับแก้ผ้า บังคับจับอวัยวะเพศ และข่มขืนเด็ก
“จนถึงตอนนี้ตนและญาติๆยังตกใจและยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานสาวที่อายุแค่ 8 ขวบ เชื่อว่าหลานสาวพูดความจริง ถูกกระทำจริง เด็กวัยนี้ยังไร้เดียงสาและโกหกไม่เป็น ญาติๆคุยกันแล้วว่าจะดำเนินคดีกับตาแก่คนนี้ถึงที่สุด”นางเอยืนยันเสียงแข็ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามนายอำพร พันจิตร อายุ 71 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งได้พาเข้าไปดูภายในบริเวณบ้านพัก พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้ลวงเด็กหญิงเข้าไปในบ้านและกระทำอนาจารตามที่ถูกกล่าวหา ตนพร้อมที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจร่างกายและต่อสู้ในทางคดีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
นายอำพร บอกอีกว่า ตนอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว ส่วนภรรยาไปเลี้ยงหลานให้ลูกๆที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ปัจจุบันตนมีโรคประจำตัวเบาหวาน และรับประทานยาเป็นประจำ เพราะอายุมากแล้ว ในวันดังกล่าวจำได้ว่าช่วงเวลาประมาณ 16.00 น กำลังทำกับข้าวอยู่ด้านล่างของบ้าน เด็กหญิงได้เดินเข้ามาเล่นในบริเวณบ้านของตนแล้วขอเงินไปซื้อขนม ซึ่งตนก็ได้ให้เงินไป 20 บาท เพราะเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลานจริงๆ
แต่ยืนยันว่าไม่ได้เรียกหรือลวงเด็กหญิงเข้ามาในบ้านทำอนาจาร ตนอายุมากคงไม่มีกำลังและหมดสมรรถภาพทางเพศมานานหลายปีแล้ว ไม่เคยแม้แต่จะคิด รักเด็กเหมือนลูกเหมือนหลาน ตนพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ จะพาไปสาบานที่ไหนก็ได้ จะตรวจพิสูจน์ร่างกายก็ได้ พร้อมต่อสู้คดี
ขณะนายนวย อนันการ กำนัน ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากยายของเด็กว่าถูกชายอายุ 71 ปีลวงไปข่มขืน เบื้องต้นได้แนะนำให้ไปแจ้งความกับตำรวจ และรายงานไปยังนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ และได้เข้าไปสอบถามผู้ถูกกล่าวแล้ว ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนเด็ก ในฐานะผู้นำชุมชนจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เบื้องต้นได้ให้ผู้ถูกกล่าวหาอายุ 71 ปี นั้นมาพักอาศัยอยู่ที่ทำการกำนันก่อน เพื่อความปลอดภัย จนกว่าเรื่องจะกระจ่างชัด ส่วนเรื่องขอคดีก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการตามพยานหลักฐานต่อไป
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์จะออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามารับรับทราบข้อกล่าวภายในช่วงบ่ายวันนี้เช่นกัน