เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
“บิ๊กเสือ” สกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย เชิญมารดา “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ หลังห้ามไม่ให้มาเก็บตัว
นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ได้เชิญ ผู้ฝึกสอน และ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก พร้อมกับมอบนโยบาย ให้ขวัญและกำลังใจ ก่อนเก็บตัวฝึกซ้อม อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่สถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เบาบางลง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” ที่ประเทศญี่ปุ่น และ การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน อินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม ปี 2564 ที่ประเทศไทย
โดยการประชุมร่วมกันครั้งนี้ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือเชิญผู้แทนการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้ง “กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไทยที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และ นางพรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ มารดาของ “กัปตัน” เข้าร่วม แต่ไม่มีใครมาร่วมประชุมดังกล่าว ส่งผลให้ “กัปตัน” ที่ถูกเรียกให้มาเก็บตัวฝึกซ้อมที่สมาคมกีฬายิงปืน ถึง 3 หน ( ครั้งแรก วันที่ 5 กรกฏาคม, ครั้งที่ 2 วันที่ 17 กรกฏาคม และ ครั้งล่าสุดวันที่ 23 กรกฏาคม 2564) ไม่ได้มารายงานตัวตามหนังสือเรียกแต่อย่างใด ขณะที่นักกีฬายิงปืนทีมชาติอีก 15 คน ได้ทำการฝึกซ้อมร่วมกันมาตั้งแต่วันที่ 5 กรกฏาคม เป็นต้นมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสกล วรรณพงษ์ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแหงประเทศไทย ได้กล่าวว่า “เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ผู้ปกครองของนักกีฬา ที่ต้องการเป็นผู้ฝึกสอนส่วนตัวให้กับ อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ แต่เนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะไม่มีไลเซ่นส์ ขัดต่อระเบียบของการกีฬาแห่งประเทศไทย ทำให้สมาคมฯ ต้องปฏิเสธการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนทันที ส่งผลให้ นางพรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ ผู้ปกครองของ “กัปตัน” รู้สึกไม่พอใจ จึงห้ามไม่ให้ลูกชายเดินทางมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ตามหนังสือเรียกไปจำนวน 3 ครั้งดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ยังให้โอกาส อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ โดยไม่คิดจะตัดออกจากโควตานักกีฬาทีมชาติไทย ในการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ จนกว่าจะได้มีการพูดคุยกับ นางพรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์ และ นายอิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ ว่าจะตัดสินใจอย่างไร หากยังต้องการติดทีมชาติก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ด้วยการเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมที่ สนามยิงปืนของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย หัวหมาก ภายใต้ผู้ฝึกสอนมืออาชีพ และ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่นเดียวกับนักกีฬายิงปืนทีมชาติทุกคน
นอกจากนี้ นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย ยังได้ให้นโยบายแก่นักกีฬา และ ผู้ฝึกสอนทีมชาติ ด้วยว่า สมาคมฯ ยินดีให้การดูแล ช่วยเหลือนักกีฬาในทุกด้าน ทั้งการเรียน และ การงาน โดยนักกีฬามีหน้าที่ฝึกซ้อมตามโปรแกรมอย่างเต็มที่ ต่อไปนี้จะไม่มีฝั่งซ้าย – ไม่มีฝั่งขวา มีแต่ฝั่งของเรา ขอให้ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อร่วมกันเดินหน้าสู่เป้าหมาย 4 รายการใหญ่ โรดทู โตเกียว 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น , โรดทู ปารีส 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส , เอเชี่ยน อินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ และ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะนำวิทยาศาสตร์การกีฬา และ เวทเทรนนิ่ง เข้ามาสร้างเสริมสมรรถภาพนักกีฬา สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับการประเมินผลการฝึกซ้อมของนักกีฬา ทุก 3 เดือน
สำหรับนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ล่าสุดมีจำนวน 16 คน เป็นนักกีฬาที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 จำนวน 3 คน ได้แก่ ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์, ธันยพร พฤกษกร, อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ ที่เหลืออีก 13 คน เป็นชุดเตรียมคัดเลือก โรดทู ปารีส โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วย นภดล สุทธิวิรัช, พรชัย สุคนธ์พานิช, นภิศ ต่อตั้งพานิช, นวินดา เกษมเกียรติไทย, สุภมาศ วันแก้ว, ฟองฟ้า พลประจักษ์, เณศรา จำปารัตน์, บริพัตร จริยาทัศน์กร, ราม คำแหง, ปฏิพงษ์ นาคเอี่ยม, เตวิช ตู้ทวีทรัพย์, ธนภัสสร คงเกษม, วชิศา ปะดุกา โดยมี นายกณิตพงษ์ กองคำ, นายพีระ ภิรมย์รัตน์, นายวราวุธ มัจฉาชีพ, น.ส.ภัสสรณัฐ หงส์ประเสริฐ , Ms.Alena Vedmochka และ Ms.Valentyna Chunikhina เป็นผู้ฝึกสอน และ น.ส.ชิดชนก อยู่ศรี (นักกายภาพบำบัด )