มาแน่ ! 3 เมกะเทรนด์โลก เขย่าธุรกิจอาหารต้องปรับตัวครั้งใหญ่

“อาหาร” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องฝ่ากระแสดิสรัปชั่นจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงและการแพร่ระบาดของ Covid-19 เป็นตัวเร่งให้ตลาดเกิดขึ้นเร็ว เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ เผย 3 เมกะเทรนด์อาหารแห่งอนาคตที่มาแรง และผู้ประกอบการอาหารต้องปรับครั้งใหญ่

แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิตจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร เปิดเผยว่า เมกะเทรนด์อาหารที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ต้องเป็นอาหารที่ใช้กระบวนการผลิตจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง หรือเรียกว่า Specialty Food ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมไปทั่วโลกและมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูงในช่วงที่ผ่านมา ด้วยลักษณะอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก

เทรนด์ Specialty Food 3 กลุ่มมาแรง

กลุ่มอาหาร Ethnic Food เทรนด์การบริโภคอาหารต่างชาติ โดยดัดแปลงผสมผสานกับอาหารท้องถิ่น โดยเฉพาะเอเชี่ยนฟู้ดส์ อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม กำลังเป็นที่นิยม อีกทั้งพบว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่เริ่มทดลองอาหารที่มีรสชาติจัดจ้านมากขึ้น คาดการณ์อาหารกลุ่มดังกล่าวมีการเติบโตโดยเฉลี่ยเกินกว่า 10% ในอีกหลายปีข้างหน้า
กลุ่มอาหาร Plant-Based Food หรืออาหารโปรตีนจากพืช ผลิตจากพืชตระกูลถั่ว เห็ด และสาหร่าย ทดแทนเนื้อสัตว์ ซึ่งได้รับความนิยมในการบริโภคเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสผู้บริโภคที่ใส่ใจการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของอาหาร โดยตลาดดังกล่าวคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 6-10%
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ให้ความสะดวกสบาย เหมาะกับผู้บริโภคทุกวัย รวมถึงผู้ป่วยและผู้พิการ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์

กระบวนการผลิตอาหารทุกวันนี้ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 30-40% นอกจากนี้ ต้องลดการใช้แพ็กเกจจิ้งพลาสติก โดยขณะนี้ไฮเปอร์มาร์เก็ตในยุโรป มีนโยบายลดแพ็กเกจจิ้งพลาสติกแล้ว นั่นคือโจทย์ของผู้ดำเนินธุรกิจอาหารที่ต้องเร่งสร้างแบรนด์ด้านความยั่งยืน

แนะผู้ประกอบการปรับตัวรับเวฟใหม่

มุ่งเน้นกระบวนการผลิตเพื่อสร้างความยั่งยืนและให้ความสำคัญกับการจัดการ Sustainable Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ การผลิต จัดเก็บ ขนส่งและจัดจำหน่าย ตลอดจนให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ถือเป็นปัจจัยที่เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคต้องการอาหารที่เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในรูปแบบต่างๆ
อาหารต้องมีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีสารอาหารครบ ร่างกายสามารถดูดซึมได้เร็ว ช่วยให้สุขภาพดีเพื่อต้านทานโรค จึงถือเป็นโอกาสของธุรกิจในการผลิตสินค้ารองรับความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพอีกทางหนึ่ง