เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
จากชีวิตจริงที่จบเภสัช แต่ด้วยความชื่นชอบการเล่นกีฬาทุกชนิด โดยเฉพาะ กีฬาที่มีเอกลักษณ์ อย่าง “ตระกร้อ” ของไทย ทำให้ “ครีม-ศุภากร หล่อพิพัฒน์” เดินหน้าสานฝัน เตรียมออกจากคอมฟอร์ทโซน การทำงานที่หลากหลายตามที่เรียนมา ทั้งงานเภสัช, งานบริหารบุคคล ฯลฯ มาเป็นอีกหนึ่งบทบาทใหม่ “ผู้จัด” การแข่งขัน ตะกร้อไทยแลนด์ลีก หรือ “เดอะ ตะกร้อ ลีก” ครั้งที่ 19 (เริ่มวันที่ 15 ส.ค. ถึง 12 ธ.ค. 2563) โดยมีวัตถุประสงค์ทำให้กีฬาพื้นบ้านของไทยเป็นที่รู้จักระดับโลก พร้อมกับผลักดันให้ผู้ชื่นชอบกีฬาประเภทนี้ เล่นเป็นอาชีพได้ เสมือน “นักอเมริกันฟุตบอล” ในต่างประเทศ
“ครีม-ศุภากร” เผยถึงชีวิตวัยเด็กว่า “คุณพ่อคุณแม่ทำงานอยู่ในวงการสุขภาพและกีฬา เราก็เล่นกีฬาและดูกีฬามาแต่เด็กค่ะ เริ่มว่ายน้ำตั้งแต่ 4 ขวบ และอยู่ชมรมว่ายน้ำ ชมรมกรีฑาของโรงเรียน และมีเล่นกีฬาประเภทอื่นๆ บ้าง เช่น บาสเกตบอล ฟุตบอล วอลเลย์บอล และเต้น โดยเราค่อนข้างโตมาแบบมีความ Unisex เยอะ เพราะมีทั้งพี่ชายและน้องสาว ดังนั้น ทั้งชอบเล่นเกม อ่านการ์ตูน เล่นกีตาร์เหมือนพี่ชาย แต่ก็มีมุมรักการแต่งตัว ชอปปิ้ง วาดภาพศิลปะ และเต้นกับน้องสาว”
หลังจบปริญญาตรีฯ เภสัชศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย Purdue สหรัฐอเมริกา ก็ต่อปริญญาโท ใบแรกด้าน Innovation Management & Entrepreneurship (การบริหารนวัตกรรมและความเป็นผู้ประกอบการ) ที่มหาวิทยาลัย Brown จบกลับมาเมืองไทยก็ทำงานเป็นที่ปรึกษาอยู่ 3 ปี เริ่มจากบริษัทเล็กๆ ที่ให้คำปรึกษาเฉพาะด้านเกี่ยวกับทุนมนุษย์ และย้ายมาบริษัทที่ใหญ่ขึ้นอย่าง PricewaterhouseCoopers (PwC) เป็นที่ปรึกษาด้าน People & Organization ได้ต่อยอดจากสิ่งที่เรียนมา ด้วยการนำมาเชื่อมโยงกับระบบการทำงานในองค์กร ซึ่งต้องมีการนำจิตวิทยามาเสริม งานของเราคือวางระบบและสนับสนุนให้เพิ่มประสิทธิภาพของงานและเพิ่มศักยภาพของคนในองค์กร
หันเหมาทำตระกร้อลีก ฝันอยากให้ดังระดับโลก
“เริ่มต้นจากชอบเรื่องของสุขภาพ และ performance ของคน มานึกย้อนว่าก่อนที่จะไปเรียนปริญญาตรี ได้มีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์เป็นล่ามไทย-จีน-อังกฤษ ให้กับการแข่งขันตะกร้อคิงส์คัพ และประทับใจบรรยากาศการแข่งขันมากๆ เป็นการทำงานที่มีความสุข จึงตัดสินใจออกจากงานไปเรียนต่อปริญญาโทใบที่สอง ทางด้าน Sport Management ที่มหาวิทยาลัย Columbia ในรัฐนิวยอร์ก พอได้สัมผัสแล้วรู้เลยว่ามาถูกทางแล้ว เป็นอุตสาหกรรมที่รวมทุกอย่างที่ชอบไว้รวมกันทั้งหมดเลยจริงๆ
สิ่งที่ภูมิใจและสนุกมากที่สุดคือ การได้ไปฝึกงานกับทีมฟุตบอล New York Red Bulls ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์ โดยการประเมินข้อมูลเชิงลึกต่างๆ จาก data และ feedback ที่ได้เก็บมา และกำหนดกลยุทธ์ที่ทางสนามและทีมจะใช้ต่อไปในอนาคต ซึ่งรวมไปถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจจับต้องไม่ได้แต่มี นัยสำคัญมากๆ เช่น ผลการแพ้ชนะ อุณหภูมิ สภาพอากาศของสนาม การตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค กระแสสังคม และสังคมศาสตร์ ทุกอย่างเกี่ยวข้องกันหมดและหัวหน้าทีมก็น่ารักมากๆ เป็นคนที่อายุไม่เยอะ แต่มีภาวะผู้นำสูงมาก ทำให้ได้เรียนรู้สไตล์การทำงานของเขามาเยอะ”
จัดแข่งระบบอินเตอร์
“สิ่งที่ดีที่สุดของการทำงาน มองว่าการทำงานกีฬาสามารถตอบโจทย์ปัญหาสังคมอะไรได้บ้าง ก็มาตีโจทย์ดู เช่น หากมองประเทศไทยเสมือนองค์กรหนึ่ง จะเห็นว่าเรามีสินทรัพย์ที่มีศักยภาพมากมาย ที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ หนึ่งในนั้นคือกีฬาที่เป็นมรดกตกทอดของบ้านเรา จึงมีความคิดที่จะมาจัดการแข่งขันตะกร้อลีก เริ่มต้นด้วยทีมจาก 9 จังหวัดในประเทศไทย (อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ แพร่ พิษณุโลก เลย ชัยภูมิ ปทุมธานี ชลบุรี นครปฐม)”
“ปัจจุบันประเทศไทยมีนักกีฬาตะกร้อที่เก่งๆ อยู่มาก แต่เนื่องจากไม่มีระบบเส้นทางอาชีพ ทำให้แม้มีฝีมือดีก็เล่นตะกร้อได้แค่พาร์ทไทม์ และไม่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงจากอาชีพนี้ได้ เราเห็นกีฬาอเมริกันฟุตบอลเกิดและเติบโตอยู่ในประเทศๆ เดียว แต่สามารถสร้างอาชีพ สร้างมูลค่า และพัฒนาทุนมนุษย์ในประเทศของเขาได้อย่างมหาศาล หากจะแย้งว่าเขาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วจึงทำได้ เราก็เห็นกีฬามวยไทยเกิดและเติบโตไปสู่ตลาดโลกได้เช่นกัน จากที่เคยเป็นล่ามให้กับงาน ตะกร้อคิงส์คัพ ทำให้รู้ว่ามีกว่า 30 ประเทศทั่วโลกที่ส่งนักกีฬามาแข่งขันกับเรา แม้แต่ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือประเทศในทวีปยุโรป อย่าง เยอรมนี และฝรั่งเศส ก็เล่นตะกร้อกับเราเช่นกัน แถมยังส่งนักกีฬามาฝึกกับโค้ชไทยอีกด้วย ซึ่งทำให้โค้ชไทยของเรามีรายได้เพิ่มไม่น้อยเลย
ครีมมองว่า เรามีทรัพยากรมนุษย์ที่ดีมากอยู่แล้วในวงการตะกร้อบ้านเรา ขาดก็แต่ระบบลีก ที่จะสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนเส้นเลือดที่จะส่งเลือดไปเลี้ยงจังหวัดต่างๆ ที่ส่งทีมมาเข้าร่วม ทำให้แต่ละจังหวัดและชุมชนในประเทศของเรามีอาชีพและรายได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และหากกีฬาเป็นที่นิยมมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้สุขภาพของคนที่หันมาเล่นตะกร้อดีมากขึ้นอีกด้วย เป็นการเสริมสร้างทุนมนุษย์ทางด้านกีฬา สุขภาพ และธุรกิจท้องถิ่นไปด้วยในคราวเดียวกัน”
“นี่เป็นภาพความสำเร็จที่ครีมอยากเห็นเกิดกับขึ้นกับประเทศไทย และเป็นนิยามของงานที่มีความหมายสำหรับตัวเรา หากในอนาคตต่างชาติหันมาเสพหรือแม้แต่ฝึกเล่นกีฬาที่เกิดในบ้านเรา คงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่เราอยากทำให้กับประเทศไทย เพราะเมื่อลองให้เพื่อนต่างชาติและอาจารย์มหาวิทยาลัยดูคลิปการแข่งขันเซปักตะกร้อ ต่างก็บอกว่าน่าสนใจ แปลกใหม่ และเป็นกีฬาที่น่าติดตามมาก เธอพูดพร้อมโชว์คลิปวิดีโอ 10 นักตะกร้อชาย เป็นหลักฐาน หาชม ได้ที่ https://www.facebook.com/takrawworld/videos/2498436950430267/?”
วันว่างและไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่ชื่นชอบ
“ครีมเป็นคนที่เที่ยวได้ทุกแนว หรูได้ลุยได้ ขึ้นบกได้ลงน้ำก็ได้ สายกินหรือสายบุญก็ได้ค่ะ ล่าสุด เดินทางไปเตรียมความพร้อมของสนามตะกร้อทั่วประเทศก็มีโอกาสได้แวะเยี่ยมเยียนอุทยานแห่งชาติหลายที่ ชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ และเก็บตราประทับพาสปอร์ตอุทยานแห่งชาติอยู่ ว่างๆ ก็มีทำคลิปออกมาบ้าง ช่องยูทูปชื่อว่า CAPP
ส่วนของสะสมก็มีเสื้อทีมฟุตบอลที่เราชื่นชอบและมีความทรงจำที่ดี ทุกตัวซื้อมาจากสนามหรือประเทศที่เป็นเจ้าของทีมเท่านั้น เช่น ทีม New York Red Bulls ที่ได้ไปฝึกงานด้วยที่รัฐ New Jersey เสื้อทีม Barcelona จากสนาม Camp Nou ที่สเปน และเสื้อทีม Argentina จากอาร์เจนตินาเพราะชอบ Lionel Messi มาก รวมถึงทีม Manchester City ที่ซื้อจากสนาม Etihad ด้วย เพราะเป็นทีมบอลอังกฤษที่ชื่นชอบ”
ท้ายสุด ผู้จัดหญิงคนสวยกล่าวทิ้งท้ายว่า “เป็นคนมองว่า งานที่มีความหมาย คือการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนเพื่อสังคม และการใช้ชีวิตที่มีคุณค่า คือการสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนเพื่อครอบครัวและเพื่อนร่วมโลกและในทุกๆ วัน คือโอกาสที่เราจะทำสิ่งเหล่านี้ให้ดีที่สุด”