บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ หรือ SF หากไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากการปรับมูลค่าเหมาะสม (FV) ของสินทรัพย์เราคาดว่า SF จะมีผลขาดทุนจากธุรกิจหลัก 38 ล้านบาทใน 2Q63 จากที่มีกำไรหลัก 244 ล้านบาท ใน 2Q62 และ200 ล้านบาท ใน 1Q63 เนื่องจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีคำสั่งให้ปิดศูนย์การค้า และ communitymall เป็นเวลา 47 วัน ในระหว่างไตรมาส เราจึงคาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 90 ล้านบาท (-75.7% YoY, -72.4% QoQ) ในทำนองเดียวกันประเมินว่าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก ห้างเมกาบางนา (MB) จะลดลงเหลือ 40 ล้านบาท ใน 2Q63 (-66.3% YoY, -66.4% QoQ)
ไม่มี GLA ใหม่เพิ่มเข้ามาในปีนี้
เราคาดว่าพื้นที่ปล่อยเช่า (gross leasable area หรือ GLA) ซึ่งรวมอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของ SF และ MB จะอยู่ที่ 4.32 แสนตร.ม. ใน 2Q63 ลดลง 1.7% YoY เนื่องจากมีการยกเลิกสัญญาของ Siam Future Town Center (ฉะเชิงเทรา) ตั้งแต่สิ้นปี 2562 เราไม่คิดว่า SF จะเพิ่ม GLA ใหม่เข้ามาในปีนี้ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีโครงการปรับปรุง food walk และสร้างที่จอดรถแบบหลายชั้น เพิ่มที่ MB
เมกาบางนาจะฟื้นตัวได้เร็วใน 2H63
จากการตรวจสอบล่าสุด เราคาดว่าจำนวนผู้มาใช้บริการที่ MB เกือบจะกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID-19 ระบาดแล้วนอกจากนี้ หนึ่งในผู้เช่าพื้นที่หลักรายใหญ่ได้เปลี่ยนจากห้าง Robinson ไปสรรพสินค้าเซ็นทรัลแทนซึ่งเราคิดว่าเหมาะกับ
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ MB มากกว่า จึงเชื่อว่า MB อาจจะไม่ต้องลดค่าเช่าให้กับผู้เช่ามากเหมือนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์รายอื่นๆ
ถ้าหากกำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q63 เป็นไปตามคาดกำไรใน 1H63 จะคิดเป็น 47% ของประมาณการกำไรปีนี้ เราคาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้นใน 2H20 จากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2564F ที่ 5.25 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากมีการปิดห้างนานกว่าที่คาด ปรับค่าเช่าน้อยกว่าที่คาดไว้ และอัตราการเช่าพื้นที่ของเมกาบางนาต่ำเกินคาด
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)