“รองตูน” ณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ระบุถึงแผนการดำเนินงานของด้านกีฬาอาชีพหลังผ่านพ้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยว่า ตอนนี้ กกท. ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด
โดยการจัดแข่งขันกีฬาหลังจากนี้ต้องวางมาตรการในรูปแบบวิถีใหม่ “นิว นอร์มอล” เพื่อให้สามารถรับมือในภาวะที่มีโรคระบาดเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ กกท. ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมหารือรับฟังแนวทางการจัดทำคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมด้านกิจกรรมกีฬา และรวบรวมมาตรการและหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการจัดแข่งขันเพื่อเป็นจัดทำคู่มือการปฏิบัตินำส่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อนำเสนอต่อ ศบค. พิจารณารับรอง และประกาศใช้ให้เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน
สำหรับอุปสรรคสำคัญในตอนนี้คงเป็นการจัดแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากในหลายประเทศยังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง จึงยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยของนักกีฬา คงทำได้แค่เพียงแข่งขันกีฬาอาชีพในประเทศเท่านั้น สิ่งสำคัญในการดำเนินงานทั้งหมด คือ ต้องพยายามป้องกันการแพร่ระบาดให้มากที่สุด พยายามทำงานใกล้ชิดกับ ศบค. และประเมินสถานการณ์ของประเทศต่างๆ ทั้งก่อนและหลังผ่อนปรนมาตรการว่ามีผลออกมาเป็นอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดอีก
ขณะที่แนวทางการดำเนินงาน “ด้านสิทธิประโยชน์” นั้น จะมีการ “ปรับโฉมใหม่” จากเดิมที่ปรกติแล้วสิทธิประโยชน์ของ กกท. จะครอบคลุมเพียงแค่การแข่งขันกีฬาแห่งชาติและการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติเท่านั้น เตรียมปรับเปลี่ยนให้สามารถโฆษณาได้ตลอดทั้งปี ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผ่านช่องทางและเครือข่ายต่างๆ ถือเป็นการเปิดกว้างและสร้างมิติใหม่ด้านสิทธิประโยชน์ของ กกท. เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้สนับสนุนได้โฆษณามากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสร้างรายได้ให้ กกท. มากขึ้นตามขอบข่ายการโฆษณาที่เพิ่มขึ้นด้วย คาดว่าช่วงประมาณต้นเดือน ก.ค. จะเรียกผู้สนับสนุนเดิมของ กกท. ประมาณ 13-14ราย เข้ามาหารือ เพื่อแจ้งถึงแนวทางด้านสิทธิประโยชน์แบบใหม่ หลังการประชุมร่วมกับผู้สนับสนุนน่าจะมีความชัดเจนยิ่งขึ้น
“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลดีต่อทั้งผู้สนับสนุนและ กกท. ในมุมของผู้สนับสนุนจะสามารถโฆษณาได้มากขึ้น ซึ่งการขยายเวลาดังกล่าวจะเพิ่มมูลค่าของการเซ็นสัญญาทำให้ กกท. มีรายได้ เพื่อนำมาพัฒนาเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สนับสนุนรายใหม่สนใจเข้ามาจับมือเป็นพันธมิตรมากขึ้นด้วย”
ช่วงวิกฤติฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ กกท. อยู่เคียงข้าง พร้อมเยียวยาช่วยเหลือบุคลากรในวงการกีฬาอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังคงเดินหน้าปรับปรุงการดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบให้ก้าวหน้าเพื่อนำไปสู่การพัฒนาของวงการกีฬาไทยอย่างไม่หยุดยั้ง.