เผยแพร่:
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
หัวเว่ย (Huawei) ถูกยกเป็นแชมป์สมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลกประจำไตรมาส 2 ปี 2020 เป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยแซงหน้าซัมซุง (Samsung) และแอปเปิล (Apple) เบ็ดเสร็จแบรนด์จีนส่งมอบสมาร์ทโฟน 55.8 ล้านเครื่อง ลดลง 5% เมื่อเทียบกับช่วงเมษายนถึงมิถุนายนปีที่แล้ว ด้านนักวิเคราะห์ยังข้องใจชัยชนะอาจไม่ยั่งยืน เพราะยอดขายของหัวเว่ยกว่า 70% ในไตรมาส 2 ล้วนมาจากประเทศจีน และในตลาดต่างประเทศเห็นชัดเจนว่าได้รับผลกระทบ
บริษัทวิจัยคานาลิส (Canalys) ยกให้หัวเว่ยเป็นผู้เล่นสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกในไตรมาสที่ 2 โดยแม้จะเป็นแชมป์ แต่ตัวเลขชี้ชัดว่ายอดขายส่วนใหญ่ของหัวเว่ยมาจากประเทศจีน เนื่องจากธุรกิจระหว่างประเทศได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐอเมริกา
คานาลิส พบว่า หัวเว่ยส่งมอบสมาร์ทโฟน 55.8 ล้านเครื่อง ลดลง 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่อันดับ 2 อย่างซัมซุง จัดส่งสมาร์ทโฟน 53.7 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
แม้จะเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้ติดอันดับ 1 หลังจากทะเยอทะยานมานานหลายปี แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตำแหน่งแชมป์อาจไม่ยั่งยืนเนื่องจากตลาดต่างประเทศของหัวเว่ยที่อยู่นอกประเทศจีนล้วนได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ทำให้แม้หัวเว่ยจะขายสมาร์ทโฟนมากกว่า 70% ในจีนแผ่นดินใหญ่ในไตรมาสที่ผ่านมา แต่การส่งมอบสมาร์ทโฟนในตลาดต่างประเทศกลับลดลง 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
การสำรวจพบว่า ในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ยนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนลดฮวบเหลือ 16% จากที่เคยมี 22% ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 62 ทำให้หัวเว่ยเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรปรองจากซัมซุง และแอปเปิล
โม เจีย (Mo Jia) นักวิเคราะห์ของคานาลิสชี้ว่า อาจเป็นเรื่องยากสำหรับหัวเว่ยที่จะรักษาความเป็นผู้นำในระยะยาว เนื่องจากพันธมิตรที่เป็นช่องทางจำหน่ายของหัวเว่ยในภูมิภาคสำคัญ เช่น ยุโรป กำลังระมัดระวังในการสั่งซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ยมากขึ้น มีรายงานว่าพบการสั่งซื้อบางรุ่นน้อยลงและนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทดแทนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งความแข็งแกร่งในประเทศจีนเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนหัวเว่ยให้รั้งแชมป์ไว้ในวันที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว
สถิตินี้ถือเป็นผลโดยตรงจากปีที่แล้วที่หัวเว่ยถูกหน่วยงานสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ จำกัดไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา ทำให้หัวเว่ยไม่สามารถใช้บริการในเครือแอนดรอยด์ของกูเกิล (Android) ในอุปกรณ์เรือธงรุ่นล่าสุดได้ ภาวะที่เกิดขึ้นไม่มีผลกับผู้ใช้ในจีน เพราะบริการของกูเกิล เช่น จีเมล (Gmail) หรือเครื่องมือค้นหานั้นถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การไม่มีกูเกิลถือเป็นเรื่องใหญ่ในตลาดต่างประเทศ ผลคือคู่แข่งของหัวเว่ยซึ่งยังคงสามารถใช้แอนดรอยด์ได้สามารถดันส่วนแบ่งการตลาดได้ชัดเจน ตัวอย่างเช่นในยุโรป บริษัท จีนอย่างเสียวหมี่ (Xiaomi) สามารถทำส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 6% ในไตรมาส 2 ปีที่แล้ว มาเป็น 13% ในปีนี้