สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ เจ้าของเครือข่ายโรงแรมและรีสอร์ท ระดับโลกได้คาดการณ์ว่าโรงแรมในเครือฮิลตันอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองปีกว่าที่จะกลับมาฟื้นตัวอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังยอดจองห้องพักของโรงแรมในเครือทั่วโลกได้เพิ่มขึ้น 5% ในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. หลังหลายประเทศได้กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
คริสโตเฟอร์ นาสเซตต้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฮิลตัน กล่าวว่า ฮิลตันได้รับผลกระทบอย่างมากจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศได้หยุดชะงักเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และทำให้รายได้ของโรงแรมลดลงเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามจากการที่ยอดจองห้องพักที่เพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำให้ทางฮิลตันคาดการณ์ว่าธุรกิจของโรงแรมจะฟื้นตัวอย่างช้าๆก่อนที่จะฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบในอีก 2 ปีข้างหน้า
โดยระหว่างเดือนเม.ย. ถึงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวนผู้เข้าพักโรงแรมในสหรัฐฯได้เพิ่มมากถึง 48.1% หลังหลายรัฐของสหรัฐฯได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่จำนวนผู้เข้าพักโรงแรมในเครือฮิลตันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมากถึง 20% และในทวีปเอเชียเพิ่มขึ้น 15% โดยฮิลตันมีแผนที่จะเปิดโรงแรมทั้งหมดในประเทศจีนภายในปีนี้
ทั้งนี้ ฮิลตัน ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2020 โดยมีรายได้อยู่ที่ 564 ล้านดอลลาร์ ลดลงมากถึง 81% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ และมียอดขาดทุนในไตรมาสนี้อยู่ที่ 432 ล้านดอลลาร์