ผลกระทบจากโควิด-19 กำลังส่งผลต่อธุรกิจเอสเอ็มอี.อย่างหนัก ขณะที่มาตรการเยียายาจากภาครัฐ กำลังจะสิ้นสุดลง
โดยผลสำรวจ SME จำนวน 800 ตัวอย่างทั่วประเทศ ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า เอสเอ็มอี.ร้อยละ 61.7 บอกว่า ได้รับผลกระทบมากถึงมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 26.9 ได้รับผลกระทบปานกลาง และร้อยละ 11.2 ได้รับผลกระทบน้อย โดยธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมาก คือ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สุขภาพ ความงาม อัญมณีและหัตกรรม
เมื่อสอบถามประเด็นกรณีไม่มีรายได้เข้ามา หรือ เข้ามาน้อยมาก จะประคองธุรกิจได้นานเท่าไหร่ โดยเฉลี่ยบอกว่า จะประคองธุรกิจได้ประมาณ 6 เดือน แต่ถ้าลงในรายละเอียด พบว่า ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ จะประคองธุรกิจได้น้อยที่สุด อยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น ขณะที่ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจท่องเที่ยวและสันทนาการ ธุรกิจโรงแรมและเกสต์เฮ้าส์ ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บอกว่าอยู่อีกเพียง 6 เดือน ส่วนธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่น ธุรกิจหัตถกรรม ธุรกิจพลาสติกและยาง ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร ธุรกิจบริการด้านความงาม อยู่ได้อีก 9 เดือน
โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มีข้อเสนอให้ภาครัฐช่วยเหลือเงินอุดหนุนให้ผู้ประกอบการ รวมทั้งต้องการซอฟต์โลน เพื่อเสริมสภาพคล่อง รวมถึงการพักชำระหนี้และการลดภาษี เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ เอสเอ็มอี เป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 แต่สำหรับผู้ประกอบการที่ปรับตัวได้เร็ว ก็จะเป็นกลุ่มแรก ๆ เช่นกันที่สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่หนักหน่วงไปได้